ประกันโรงงานยุคใหม่: คุ้มครองมากกว่าความเสียหาย แต่ปกป้อง รายได้ ของธุรกิจ

2 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ประกันโรงงานยุคใหม่: คุ้มครองมากกว่าความเสียหาย แต่ปกป้อง “รายได้” ของธุรกิจ

ประกันโรงงานยุคใหม่: คุ้มครองมากกว่าความเสียหาย แต่ปกป้อง “รายได้” ของธุรกิจ
ทุกโรงงานล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ “ผลิตสินค้าให้ต่อเนื่องและสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ”
แต่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม เครื่องจักรเสีย หรืออุบัติเหตุภายในโรงงาน
สิ่งที่เสียหายไม่ได้มีเพียง “ทรัพย์สิน” เท่านั้น
แต่คือ “รายได้ของธุรกิจ” ที่อาจหายไปในพริบตา

นั่นคือเหตุผลที่เจ้าของโรงงานยุคใหม่เริ่มให้ความสำคัญกับ “ประกันภัยโรงงาน” ที่คุ้มครองมากกว่าแค่ความเสียหาย
โดยเฉพาะการทำ ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption Insurance) ที่ช่วยปกป้องรายได้ของคุณในวันที่เครื่องจักรต้องหยุดเดิน


ทำไมประกันโรงงานทั่วไปจึงไม่เพียงพอ
ประกันโรงงานแบบดั้งเดิมจะเน้นคุ้มครอง “ทรัพย์สินทางกายภาพ” เช่น

อาคารโรงงาน
เครื่องจักร
สินค้าในคลัง
อุปกรณ์สำนักงาน
แต่ในความเป็นจริง เมื่อเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น เช่น ไฟไหม้หรือระเบิด
แม้บริษัทประกันจะชดใช้ค่าซ่อมแซมทรัพย์สินให้ครบ
แต่โรงงานยัง “ไม่สามารถกลับมาผลิตได้ทันที”

หมายความว่า ธุรกิจยังคงสูญเสียรายได้ต่อเนื่อง เช่น

รายได้จากการขายสินค้าที่หายไป
ค่าใช้จ่ายคงที่ที่ยังต้องจ่าย (ค่าแรง, ค่าเช่า, ดอกเบี้ย)
ค่าชดเชยให้ลูกค้าจากการส่งของล่าช้า

ประกันธุรกิจหยุดชะงัก: คุ้มครอง “รายได้” เมื่อธุรกิจต้องหยุดเดิน
ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption Insurance)
ออกแบบมาเพื่อคุ้มครอง “ผลกำไรที่หายไป” และ “ค่าใช้จ่ายประจำ” ในช่วงที่โรงงานไม่สามารถดำเนินการผลิตได้

โดยกรมธรรม์จะคุ้มครองในกรณีที่โรงงานหยุดทำการเพราะเหตุที่อยู่ในความคุ้มครองของประกันหลัก
เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม เครื่องจักรเสียหาย หรือภัยธรรมชาติ

ตัวอย่าง:
โรงงานผลิตพลาสติกเกิดไฟไหม้บางส่วน ใช้เวลาซ่อม 2 เดือน
ระหว่างนั้น โรงงานไม่สามารถผลิตสินค้าได้เลย
ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงักจะจ่ายชดเชยรายได้ตามมูลค่ากำไรขั้นต้นของโรงงาน
ช่วยให้บริษัทมีเงินหมุนเวียนระหว่างรอซ่อมแซม


ใครควรทำประกันภัยโรงงานแบบคุ้มครองรายได้
โรงงานผลิตสินค้าต่อเนื่อง เช่น อาหาร เครื่องจักร พลาสติก เหล็ก
ธุรกิจที่มีลูกค้ารายใหญ่และต้องส่งมอบตรงเวลา
โรงงานที่ใช้เครื่องจักรหลักเพียงชุดเดียว หากพังจะหยุดการผลิตทั้งหมด
ผู้ประกอบการที่ต้องการบริหารความเสี่ยงทางการเงินในระยะยาว

เคล็ดลับเลือกประกันโรงงานให้คุ้มค่า
ตรวจสอบทุนประกันให้ครอบคลุมทั้งทรัพย์สินและรายได้
เลือกบริษัทประกันที่เชี่ยวชาญด้านภาคอุตสาหกรรม
ทำประกันหลัก (Fire Insurance) คู่กับประกันธุรกิจหยุดชะงัก
ใช้นายหน้ามืออาชีพช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงก่อนเลือกกรมธรรม์

สรุป
โรงงานยุคใหม่ต้องคิดเกินกว่าแค่ “ป้องกันความเสียหาย”
แต่ต้องวางแผน “ปกป้องรายได้” ที่เป็นหัวใจของธุรกิจด้วย

เพราะในวันที่เครื่องจักรหยุดทำงาน ประกันที่ดีจะไม่เพียงซ่อมโรงงานให้กลับมา
แต่ยังช่วยให้ธุรกิจของคุณ “เดินต่อได้โดยไม่สะดุด”


สนใจลงทุนแฟรนไชส์ DDC EXPRESS
ติดต่อเรา เพื่อสั่งซื้อ สอบถาม หรือขอใบเสนอราคา
เบอร์โทร : 080-2956052 (คุณบอย) | 080-2951830 (คุณปูเป้)
Line@: ddcexpress

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้