รู้จัก Machinery Breakdown Insurance ฉบับผู้บริหารโรงงาน เข้าใจภายใน 5 นาที

รู้จัก “Machinery Breakdown Insurance” ฉบับผู้บริหารโรงงาน — เข้าใจภายใน 5 นาที
ในโลกของอุตสาหกรรม เครื่องจักรถือเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการผลิต แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็น “จุดเสี่ยงที่สุด” ที่อาจสร้างความเสียหายมหาศาลได้หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
และนั่นคือเหตุผลที่ “ประกันเครื่องจักร (Machinery Breakdown Insurance)” กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้บริหารโรงงานทุกคนควรเข้าใจ

บทความนี้จะสรุปให้เข้าใจง่ายภายใน 5 นาที — ว่าประกันประเภทนี้คืออะไร คุ้มครองอะไร และทำไมมันถึงสำคัญต่อธุรกิจของคุณ


1. ประกันเครื่องจักรคืออะไร
Machinery Breakdown Insurance (MBI) คือประกันภัยที่คุ้มครอง “ความเสียหายทางกายภาพของเครื่องจักร”
อันเกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น

การลัดวงจรของระบบไฟฟ้า
เพลาหัก ลูกปืนแตก
การระเบิดภายในของหม้อไอน้ำหรือแรงดัน
การทำงานผิดพลาดของผู้ควบคุมเครื่อง
การหล่อลื่นไม่เพียงพอหรือระบบระบายความร้อนขัดข้อง
โดยบริษัทประกันจะชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าจริงของการซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่อง


2. ใครควรทำประกันเครื่องจักร
โรงงานอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรในการผลิต เช่น โรงงานเหล็ก พลาสติก อาหาร สิ่งทอ ฯลฯ
ธุรกิจที่พึ่งพาเครื่องจักรขนาดใหญ่ เช่น โรงไฟฟ้า โรงกลั่น หรือโรงพิมพ์
บริษัทที่ต้องการลดความเสี่ยงทางการเงินจากเครื่องจักรเสียหาย
ผู้บริหารที่ต้องการ “ความต่อเนื่องของธุรกิจ (Business Continuity)”

3. ความคุ้มครองหลักของประกันเครื่องจักร
รายการคุ้มครอง
รายละเอียด
ความเสียหายทางกายภาพของเครื่องจักร
จากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เช่น เพลาหัก มอเตอร์ไหม้ ระบบไฟลัดวงจร
ความเสียหายจากแรงดันหรือความร้อนสูง
เหมาะกับเครื่องที่ใช้ไอน้ำ แก๊ส หรือความร้อนในกระบวนการผลิต
ความเสียหายจากความผิดพลาดของคน (Human Error)
การตั้งค่าผิด การเดินเครื่องเกินกำลัง หรือการซ่อมผิดวิธี
ค่าใช้จ่ายในการซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่อง
ชดเชยตามมูลค่าจริงของการซ่อม รวมถึงค่าขนส่งและติดตั้งใหม่

4. ขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
นอกจากคุ้มครองเครื่องจักรโดยตรงแล้ว
ยังสามารถ “ต่อยอด” ด้วยการทำ ประกันธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption Insurance)
เพื่อคุ้มครอง “รายได้ที่หายไป” ในช่วงที่เครื่องจักรหยุดผลิตจากความเสียหาย

เช่น

เครื่องจักรหลักเสีย ต้องใช้เวลา 15 วันในการซ่อม
โรงงานไม่สามารถผลิตและส่งของได้ตามสัญญา
บริษัทประกันจะชดเชยรายได้ตามกำไรขั้นต้นที่สูญเสียในช่วงนั้น

5. ตัวอย่างเหตุการณ์จริง
โรงงานผลิตกระดาษในสมุทรสาครมีเครื่องจักรมูลค่า 15 ล้านบาท
เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรจนทำให้ระบบควบคุมเสียหายทั้งชุด
บริษัทประกันชดเชยค่าเปลี่ยนอะไหล่ 800,000 บาท และจ่ายชดเชยรายได้จากการหยุดผลิตอีก 400,000 บาท

รวมแล้วโรงงานได้รับเงินสินไหมกว่า 1.2 ล้านบาท ภายในไม่ถึงเดือน
ช่วยให้ธุรกิจกลับมาเดินหน้าได้ทันกำหนดโดยไม่กระทบสภาพคล่อง


6. ทำไมผู้บริหารควรให้ความสำคัญกับ MBI
ลดความเสี่ยงทางการเงินทันที เมื่อเครื่องจักรเสียหาย
เพิ่มความมั่นใจให้คู่ค้าและลูกค้า ในการส่งมอบงานตรงเวลา
เสริมภาพลักษณ์ด้านการบริหารความเสี่ยงขององค์กร
เป็นค่าใช้จ่ายทางธุรกิจที่นำไปหักภาษีได้
ในยุคที่เครื่องจักรมีราคาสูงขึ้นและเทคโนโลยีซับซ้อนมากขึ้น
การไม่มีประกันเครื่องจักรถือเป็น “ความเสี่ยงที่แพงที่สุด” สำหรับผู้บริหารโรงงาน


สรุป
Machinery Breakdown Insurance ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อซ่อมเครื่องเมื่อเสีย
แต่คือ “หลักประกันของความต่อเนื่องทางธุรกิจ”
เพราะในอุตสาหกรรม ทุกนาทีที่เครื่องหยุดทำงาน คือรายได้ที่หายไป

ดังนั้น หากคุณเป็นผู้บริหารโรงงาน การเข้าใจและทำประกันเครื่องจักรที่เหมาะสมตั้งแต่วันนี้
คือการลงทุนเพื่อความมั่นคงในอนาคตของธุรกิจคุณเอง

 สนใจเช็กเบี้ย ประกันเครื่องจักร (Warehouse Insurance) ติดต่อได้ที่

คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor

คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor

Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย