ไฟไหม้ลามจากโรงงานไปบ้านข้างเคียง ใครต้องรับผิดชอบ? บทเรียนสำคัญของเจ้าของกิจการ

14 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ไฟไหม้ลามจากโรงงานไปบ้านข้างเคียง ใครต้องรับผิดชอบ?  บทเรียนสำคัญของเจ้าของกิจการ

“ไฟไหม้ลามจากโรงงานไปบ้านข้างเคียง” ใครต้องรับผิดชอบ? — บทเรียนสำคัญของเจ้าของกิจการ
เหตุไฟไหม้ในโรงงานไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่หลายคนคิด
เพราะในแต่ละปีมีเหตุไฟไหม้สถานประกอบการหลายร้อยครั้งทั่วประเทศ และหลายกรณี “ไฟไม่ได้ไหม้แค่ในโรงงาน”
แต่กลับ ลามไปยังบ้านเรือนหรือทรัพย์สินของคนอื่น ซึ่งกลายเป็นภาระมหาศาลของเจ้าของโรงงาน

คำถามสำคัญคือ — ถ้าไฟไหม้จากโรงงานของเราแล้วลามไปบ้านข้างเคียง “ใครต้องรับผิดชอบ?”
และมีทางไหนที่เจ้าของกิจการสามารถป้องกันความเสียหายนี้ได้บ้าง?


เจ้าของโรงงาน “มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมาย”
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 ระบุว่า

“ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย ให้เขาเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์ หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้นั้นต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่เขา”
กล่าวคือ หากเหตุไฟไหม้เกิดจาก “ความประมาท” ของเจ้าของโรงงาน เช่น

ใช้ระบบไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐาน
ไม่มีการบำรุงรักษาเครื่องจักรตามรอบ
ไม่มีระบบดับเพลิงที่พร้อมใช้งาน
เจ้าของโรงงานจะต้องรับผิดชอบ ทั้งค่าซ่อมบ้านและทรัพย์สินของผู้อื่น ที่ได้รับความเสียหายจากไฟที่ลามออกไป


ตัวอย่างเหตุการณ์จริง
โรงงานผลิตพลาสติกในจังหวัดสมุทรปราการเกิดไฟไหม้จากเครื่องอัดเม็ดพลาสติกร้อนจัดจนระเบิด
ไฟลามไปติดบ้านเรือนข้างเคียง 3 หลัง เสียหายรวมกว่า 3 ล้านบาท

แม้โรงงานจะมี “ประกันอัคคีภัยโรงงาน” แต่กรมธรรม์นั้นคุ้มครองเฉพาะ ทรัพย์สินภายในโรงงาน เท่านั้น
ไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอก ทำให้เจ้าของโรงงานต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเองทั้งหมด


ประกันที่ช่วยปกป้องความเสี่ยงแบบนี้คือ “ประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก”
ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Public Liability Insurance)
คือประกันที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครอง “ความเสียหายที่ธุรกิจเป็นต้นเหตุให้ผู้อื่นได้รับผลกระทบ” ไม่ว่าจะเป็น

ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
ความเสียหายต่อชีวิตหรือร่างกายของบุคคลภายนอก
ค่าใช้จ่ายทางกฎหมายหากเกิดการฟ้องร้อง
เมื่อเกิดเหตุ เช่น ไฟไหม้ลามจากโรงงานไปบ้านข้างเคียง บริษัทประกันจะเป็นผู้จ่ายค่าสินไหมแทน
ช่วยลดภาระทางการเงินและปกป้องชื่อเสียงของธุรกิจ


ตัวอย่างการคุ้มครอง
กรณีโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์เกิดไฟไหม้จากเครื่องอบไม้ลัดวงจร
ไฟลามไปติดบ้านข้างเคียงและรถยนต์ที่จอดอยู่ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

บริษัทประกันภัยเข้ามาประเมินและจ่ายค่าสินไหมให้บุคคลภายนอกเต็มวงเงิน
เจ้าของโรงงานไม่ต้องเสียเงินชดใช้เองแม้แต่บาทเดียว


เคล็ดลับบริหารความเสี่ยงสำหรับโรงงาน
ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและเครื่องจักรทุกปี
โดยเฉพาะโรงงานที่ใช้เครื่องกำลังสูงหรือมีความร้อนสะสม
ติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติและอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อมใช้งานเสมอ
ทำประกันภัยโรงงานควบคู่กับประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
เพื่อให้คุ้มครองครบทั้ง “ทรัพย์สินของโรงงาน” และ “ทรัพย์สินของผู้อื่น”
อบรมพนักงานให้เข้าใจมาตรการความปลอดภัยในการทำงานกับเครื่องจักรและระบบไฟฟ้า

สรุป
ในฐานะเจ้าของโรงงาน คุณไม่สามารถควบคุมได้เสมอว่า “เหตุไฟไหม้จะไม่เกิด”
แต่คุณสามารถควบคุมได้ว่าจะ ไม่ให้ไฟนั้นทำลายอนาคตทางธุรกิจของคุณ

เพียงมี ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Public Liability Insurance)
คุณจะมีเกราะคุ้มครองทั้งทางการเงินและกฎหมาย พร้อมรับมือทุกความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น


สนใจเช็กเบี้ย ประกันเครื่องจักร ติดต่อได้ที่

คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor

คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor

Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้