เที่ยวต่างประเทศยุคใหม่ ต้องดูอะไรในประกันเดินทางบ้าง? (ไม่ใช่แค่ราคาถูก)

เที่ยวต่างประเทศยุคใหม่ ต้องดูอะไรในประกันเดินทางบ้าง? (ไม่ใช่แค่ราคาถูก)
ทุกวันนี้ “ประกันเดินทาง” กลายเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศแทบทุกคนต้องมี
แต่การเลือกประกันเดินทาง ไม่ควรดูแค่ราคาถูก เพราะแผนที่ถูกที่สุดอาจไม่ครอบคลุมความเสี่ยงที่คุณต้องเจอจริง ๆ ในระหว่างทริป

บทความนี้จะพาคุณมาดูว่า ในยุคที่การเดินทางเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งเรื่องสุขภาพ เที่ยวบิน และเหตุการณ์ไม่คาดคิด เราควรดูอะไรบ้างก่อนซื้อประกันเดินทาง


1. ดู “วงเงินค่ารักษาพยาบาล” เป็นอันดับแรก
ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ในต่างประเทศสูงมาก โดยเฉพาะในประเทศยอดนิยม เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี หรือยุโรป
แม้เพียง “ลื่นล้ม” หรือ “อาหารเป็นพิษ” ก็อาจมีค่ารักษาหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท

คำแนะนำ:

เลือกวงเงินค่ารักษาพยาบาลขั้นต่ำ 1,000,000 บาท สำหรับประเทศในเอเชีย
ถ้าเดินทางไปยุโรป ควรเลือกอย่างน้อย 2,000,000 บาท
หากประเทศปลายทางกำหนด เช่น “กลุ่มเชงเก้น” ต้องมีวงเงินขั้นต่ำ 30,000 ยูโร (ประมาณ 1.2 ล้านบาท)

2. ตรวจสอบ “ความคุ้มครอง COVID-19 และโรคทั่วไป”
แม้สถานการณ์โรคลดลง แต่หลายประเทศยังมีความเสี่ยงของการติดเชื้อระหว่างเดินทาง
ควรเลือกแผนที่ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากโรคทั่วไปและโรคระบาด (รวม COVID-19)
รวมถึงกรณี ต้องยกเลิกการเดินทางเพราะผลตรวจเป็นบวกก่อนบิน


3. อย่าลืมดู “เที่ยวบินล่าช้า–กระเป๋าหาย”
ความไม่แน่นอนของสายการบินยังเกิดขึ้นเสมอ ทั้งเที่ยวบินดีเลย์ กระเป๋าสูญหาย หรือของในสัมภาระเสียหาย

ควรตรวจสอบว่าแผนประกันมีคุ้มครองดังนี้:

เที่ยวบินล่าช้า (Delay) ชดเชยตามชั่วโมงล่าช้า
กระเป๋าเดินทางล่าช้าหรือสูญหาย
ความเสียหายต่อทรัพย์สินส่วนตัว
ตัวอย่างเช่น บางแผนชดเชย 2,000–5,000 บาท เมื่อเที่ยวบินล่าช้ากว่า 6 ชั่วโมง หรือกระเป๋ามาถึงช้ากว่า 12 ชั่วโมง


4. ตรวจสอบ “การเคลื่อนย้ายฉุกเฉินและขนย้ายศพกลับประเทศ”
ฟังดูอาจไม่อยากคิดถึง แต่เป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือคนที่มีโรคประจำตัว
หากเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น ป่วยหนัก ต้องเคลื่อนย้ายกลับไทย ค่าใช้จ่ายอาจสูงถึง หลักล้านบาท

ประกันเดินทางที่ดีจะมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก (Emergency Assistance Service)
พร้อมประสานงานกับโรงพยาบาลและสายการบินให้ครบวงจร


5. ดูเงื่อนไข “การยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทาง (Trip Cancellation)”
เงื่อนไขนี้เหมาะกับคนที่จองตั๋วล่วงหน้า เช่น ซื้อตั๋วโปร โรงแรม หรือทัวร์ก่อนเดินทางนานหลายเดือน
เพราะหากเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น

ป่วยก่อนเดินทาง
ญาติป่วยหรือเสียชีวิต
เที่ยวบินยกเลิก
คุณจะได้รับเงินชดเชยตามที่จ่ายไปจริง

6. เลือกบริษัทประกันที่มี “บริการเคลมและช่วยเหลือทั่วโลก”
เวลามีเหตุฉุกเฉินในต่างประเทศ คุณต้องติดต่อบริษัทประกันได้ง่ายที่สุด
จึงควรเลือกบริษัทที่มี Call Center 24 ชั่วโมง และเครือข่ายโรงพยาบาลทั่วโลก
โดยเฉพาะบริษัทที่มี “บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Global Assistance)”
ซึ่งสามารถออกใบรับรองการรักษาโดยไม่ต้องสำรองจ่าย


7. สรุป: “ไม่ใช่แค่ราคาถูก แต่ต้องดูให้ครอบคลุม”
ประกันเดินทางที่ดีควรตอบโจทย์ทั้ง

วงเงินค่ารักษาพยาบาล
เที่ยวบินล่าช้า / กระเป๋าหาย
ความคุ้มครอง COVID-19
การยกเลิกหรือเลื่อนทริป
การช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วโลก
เพราะสุดท้าย “ค่าประกันหลักร้อย อาจช่วยคุณประหยัดหลักแสน” ได้ในวันที่เกิดเหตุไม่คาดคิด


สนใจเช็กเบี้ย ประกันเดินทาง ติดต่อได้ที่

คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor

คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor

Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย