แต่งรถยนต์ ประกันคุ้มครองแค่ไหน
367 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัจจุบันเมื่อคุณมองไปบนท้องถนนคงจะเจอรถแต่งจำนวนมาก การตกแต่งรถยนต์ อีกหนึ่งสิ่งที่คนรักรถชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ให้รถเกาะถนนมากยิ่งขึ้น เพิ่มความแรง ความเร็ว สมรรถนะและความสวยงามต่างๆ ที่บ่งบอกถึงตัวตนและสไตล์ของผู้ขับขี่ ซึ่งอะไหล่ที่นำมาต่อเติมราคาค่อนข้างสูงกว่าอะไหล่ทั่วไป ทำให้นักแต่งรถหลายคนเกิดคำถามว่าประกันจะให้ความคุ้มครองหรือไม่ ? สามารถเคลมประกันได้ไหม ? ตอบคำถามคาใจกับไทยพัฒนาประกันภัย
เชื่อว่าสิ่งที่ผู้แต่งรถมือใหม่นึกถึงเป็นอย่างแรกๆ เลยคือ การเปลี่ยนแม็กและยางรถ เพื่อความสวยงามและเพิ่มสมรรถนะ รับแรงกระแทกได้ดี หรือจะเป็นค้ำโช๊คช่วยเกาะถนนแน่นยิ่งขึ้น แต่งท่อ เพิ่มไฟแต่งรถ ปรับเครื่องยนต์ใส่ที่วัดเกจจ์ต่างๆ โดยประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถแต่งคือประกันชั้น 1 ประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด แต่ไม่ว่าประกันชั้นไหนก็ยังมีเงื่อนไขในการเคลม มาดูกันว่าประกันรถยนต์จะคุ้มครองในกรณีใดบ้าง
ตกแต่งรถยนต์ ประกันคุ้มครองหรือไม่ ?
1. ประเภทของรถแต่ง :
ขึ้นอยู่กับการแต่งรถของแต่ละคน หากแต่งรถเพื่อความสวยงามสามารถทำได้ แต่หากมีการปรับแต่งเครื่องยนต์หรือการแต่งเพื่อใช้งานผิดวัตถุประสงค์ถือว่าผิดเงื่อนไขในการประกันนั่นเอง
ดัดแปลงเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มความเร็ว
การดัดแปลงเครื่องยนต์ใหม่ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานเครื่องยนต์ทั่วไป เพื่อให้รถวิ่งได้เร็วมากขึ้น บางคนดัดแปลงเพื่อแข่งความเร็ว ถือว่าเป็นการใช้งานที่ผิดวัตถุประสงค์ และอาจเข้าข่ายแต่งรถผิดกฎหมาย ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้บริษัทประกันส่วนใหญ่ไม่รับพิจารณา
รถแต่งเพื่อความสวยงาม
เช่น การติดตั้งอุปกรณ์แต่งรถ การเปลี่ยนล้อแม็ก เปลี่ยนไฟแต่งรถติดสปอยเลอร์ หรือสเกิร์ทต่างๆ สามารถทำได้แต่จำเป็นต้องแจ้งแก่บริษัทประกันภัยเพื่อทำการพิจารณารับประกันความคุ้มครอง
2. แจ้งประกัน :
ไม่ว่าคุณจะแต่งรถยนต์เพื่อความสวยงามหรือเพิ่มสมรรถนะ หากไม่มีการแจ้งบริษัทประกัน เพื่อพิจารณาตรวจสอบก่อน แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นบริษัทประกันจะชดเชย
ค่าเสียหายให้ตามราคาอะไหล่เดิมของรถที่ออกมาจากศูนย์ ในกรณีที่ไม่ต้องการใส่อะไหล่จากศูนย์ สามารถนำใบเสร็จอะไหล่ข้างนอกมาเบิกได้ แต่ประกันจะจ่ายให้เท่าราคาอะไหล่จากศูนย์เท่านั้น
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีการเปลี่ยนไฟรถราคา 5,000 บาท แต่ราคาจากศูนย์ราคา 2,500 บาท คุณสามารถเคลมประกันได้เพียง 2,500 บาทเท่านั้น นอกนั้นคุณต้องออกค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง เป็นต้น
ใน กรณีมีการแจ้งบริษัทประกัน และผ่านการพิจารณาของบริษัท ประกันภัยรถยนต์จะให้คุ้มครองอุปกรณ์แต่งรถมูลค่าไม่เกิน 20,000 บาท หากเกินจากนี้ต้องเสียเบี้ยประกันเพิ่มเติม โดยจะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้น(ต่อชิ้น) คุณสามารถเคลมประกันได้ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท ตลอดระยะเวลากรมธรรม์
- เตรียมใบเสร็จอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ให้พร้อม
- ถ่ายรูปรถยนต์ของคุณที่มีการเติมแต่งแล้วส่งให้บริษัทประกัน หากมีการแจ้งเพิ่มให้แจ้งเลขที่กรมธรรม์เดิม
- บริษัทประกันแจ้งค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (ในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
- ชำระเงินให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จสิ้น
อุปกรณ์แต่งรถที่ประกันไม่คุ้มครอง
อุปกรณ์ต่อเติมยกเว้นที่ประกันไม่คุ้มครอง ส่วนใหญ่จะเป็นการแต่งที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ตัวอย่างเช่น
- ไฟแต่งรถยนต์ : สีไฟหน้าลดกำหนดให้มี 2 สีคือ สีเหลืองอ่อนและสีขาวเท่านั้น ไฟเบรคต้องเป็นสีแดง ไฟเลี้ยวสีเหลือง ส่วนไฟส่องป้ายทะเบียนต้องเป็นสีขาวและต้องมองเห็นไม่น้อยกว่า 200 เมตร
- ป้ายทะเบียน : ต้องไม่มีอะไรมาบดบัง ห้ามใช้ป้ายทะเบียนยาว หรือป้ายทะเบียนแบบเขียนเอง
- เปลี่ยนสีรถ : เปลี่ยนสีรถทั้งคันหรือบางส่วนต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบกให้เรียบร้อย
- โหลดต่ำหรือโหลดเตี้ย : หลายคนเข้าใจว่ารถโหลดต่ำทำให้เกาะถนนได้ดี แต่รถยนต์ของคุณต้องมีช่วงล่างที่สมบูรณ์ด้วย ว่าด้วยพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ระบุว่า รถที่โหลดเตี้ยห่างจากระดับพื้นถนนต้องมีระยะไม่ต่ำกว่า 40 เซนติเมตร โดยวัดจากกึ่งกลางไฟหน้ารถ หรือกรณีไฟหน้าสูงแต่ใส่สปอยเลอร์ต่ำมากก็ถือว่าเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
- รถ Off Road / รถกระบะ สูงกว่ารถทั่วไป : อาจเป็นรถที่ต้องใช้บุกป่าฝ่าดง ขึ้นเขา สามารถทำได้แต่ต้องสูงกว่าระดับพื้นถนนไม่เกิน 135 เซนติเมตร เมื่อวัดจากกึ่งกลางไฟหน้ารถ ในกรณีที่ไม่สูงเกินกำหนดแต่มีการดัดแปลงสภาพมาก โดยมีการเสริมการยกต่างๆ ต้องมีหนังสือรับรองจากวิศวกรและต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบก
- ท่อใหญ่ / ท่อดัง : ไม่ว่าจะเป็นท่อ 3-4 นิ้ว หม้อพักที่ปล่อยควันต้องออกท้ายรถเท่านั้น ยกเว้นรถพ่วงหรือรถขนาดใหญ่ โดยที่เสียงไม่ดังเกิน 100 เดซิเบล
