เจาะแผนการตลาด MGM ศรีกรุงโบรกเกอร์

1139 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แผนการตลาด mgm

แผนการตลาด MGM ศรีกรุงโบรคเกอร์

แผนการตลาด MGM (Member Get Member) เป็นแผนการตลาดที่ บริษัทศรีกรุงโบรคเกอร์ จัดทำขึ้นเพื่อให้สมาชิกทุกระดับชั้นสมาชิกสามารถสร้างรายได้อย่างไม่จำกัด ยิ่งทำมากรายได้ก็ยิ่งมาก ซึ่งแผนการตลาด MGM นั้นก็เปรียบเสมือนการขาย อีกรูปแบบหนึ่ง แต่เป็นการขายแบบแนะนำบอกต่อบุคคลรอบข้างที่คุณรู้จัก หรือลูกค้าให้มาสมัครสมาชิก เพื่อรับส่วนลดในการซื้อสินค้าประกันภัยในราคาเทียบเท่าตัวแทน / นายหน้า และสามารถต่อยอด สร้างรายได้ โดยการสอบใบอนุญาต เพื่อขายรับค่าคอม สร้างทีมรับค่าบริหาร และแนะนำบอกต่อบุคคลรอบข้างที่กำลังมองหาอาชีพเสริมหรือ กำลังมองหาอาชีพหลัก เพื่อร่วมธุรกิจประกันภัยกับศรีกรุงโบรคเกอร์

ความสำเร็จของธุรกิจ MGM  คือ ทุกคนสามารถเลียนแบบได้ สำหรับคนที่ชอบแนะนำ บอกต่อ (ไม่บังคับ) รับรองรวยง่ายๆ มีรายได้หลักแสนต่อเดือนโดยไม่ต้องลงทุน สร้างรายได้ ที่เป็น  Passive income หยุดทำงานแต่ยังมีรายได้ โอนต่อสู่ทายาทเป็นมรดกต่อไปได้ กับสินค้าที่แนะนำง่าย ทำง่าย เพราะตลาดผู้บริโภคกว้างและใหญ่มาก ไม่ต้องอธิบายสินค้า  จ่ายผลตอบแทนตรง 1% และค่าบริหารทีมงานไม่จำกัดชั้นลึก 3% - 7.5%

ค่าบริหารงาน 3 - 6.75% ตามระดับ ตามตำแหน่ง ยกตัวอย่าง ตัวคุณอยู่ในระดับ 3 แนะนำ Member ระดับ 6 ให้มาซื้อประกัน คุณจะได้ค่าแนะนำ 1% และจะได้ค่าบริหารทีมอีก 5% รวมเป็น 6% สมมุติว่าเบี้ยประกัน 20,000 บาท คุณจะได้ค่าแนะนำ บวก ค่าบริหาร รวม 1,200 บาท

รายได้จากการขยายทีมด้วยแผนการตลาด MGM

ศรีกรุงโบรคเกอร์มีแผนการตลาดที่แตกต่างจากบริษัทอื่น ดัดแปลงประกันภัยเข้ากับระบบเครือข่าย เรียกว่าระบบ MGM: MEMBER GET MEMBER โดยแผนการตลาดนี้ บริษัทศรีกรุงโบรคเกอร์จะแบ่งคอมมิชชั่นที่ได้รับการบริษัทประกันภัย มาแบ่งเป็นระดับ ยิ่งตำแหน่งสูงขึ้นรายได้จะยิ่งมากขึ้น


ระดับสมาชิก ปรับขึ้นแล้วขึ้นเลย

เรื่องการปรับขึ้นระดับสมาชิกเป็นปัญหาของระบบเครือข่ายหลายระบบที่เราเข้าไปทำแล้วไม่ประสบควาสำเร็จ เพราะว่าแรงของแต่ละคนไม่เท่ากัน

ปกติแล้วระบบเครือข่ายทั่วไปจะต้องมีการรักษายอดส่วนตัว หรือยอดรวมของทีม หากรักษายอดไว้ไม่ได้ระดับสมาชิกก็จะตกลงมา ทำให้เราไม่มีความสุขกับการทำงานในระบบเครือข่ายนั้น เพราะไม่ใช่สินค้าทุกตัวที่เราจะมีความจำเป็นต้องใช้อยู่ตลอดเวลา สินค้าอุปโภคบริโภคหลายอย่างใช้ไปนานๆ ก็เบื่อ อยากจะเปลี่ยนบ้างแต่เปลี่ยนไม่ได้เพราะต้องรักษายอด

แต่ระบบ MGM ของศรีกรุงโบรคเกอร์ เห็นความสำคัญของปัญหานี้ พวกเราจึงไม่ต้องรักษายอดกันใดๆ ไม่ว่าจะเป็นยอดส่วนตัวหรือยอดทีม จึงไม่ต้องทำงานอยู่ภายใต้สภาวะกดดัน

การปรับระดับสมาชิก

สมาชิกระดับ 6 สามารถปรับเป็นระดับ 5 ได้โดยเพียงแค่มีบัตรนายหน้าเท่านั้น จะเป็นใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย หรือใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต หรือทั้ง 2 ใบก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องมียอดใดๆ

สมาชิกระดับ 5 ขึ้นไป สามารถปรับระดับได้โดยการสะสมยอดการซื้อประกันภัยทั้งหมด ทั้งของส่วนตัวและของสายงานในระยะเวลา 3 เดือนที่ติดกันตามตารางแผนการตลาด

ค่าแนะนำ 1% คิดจากยอดสุทธิการขายของลูกทีมติดตัวเท่านั้น

ค่าแนะนำ 1% เป็นอีกอย่างที่น่าสนใจ และ 1% นี้อย่ามองว่าน้อยเพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้ทุกเดือน

ค่าบริหารสายงาน คิดจากส่วนต่างของลูกทีมที่มีระดับต่ำกว่าในสายงานนั้น

เราจะได้รายได้ค่าสายงานจากประกันภัยทุกกรมธรรม์ที่มีการซื้อภายใต้สายงานของเรา ที่ระดับสมาชิกของต้นสายสูงสุดอยู่ระดับต่ำกว่าเรา

รายได้จะส่งถึงเรามากน้อยเท่าไหร่ คำนวณจากส่วนต่างของระดับสมาชิกของเรา กับระดับสมาชิกสูงสุดในสายงานย่อยนั้น

การแยกสายงาน เมื่อลูกทีมมีระดับเท่ากัน หรือสูงกว่า

ในระบบ MGM เกิดการแยกสายงานได้ หากลูกทีมที่เคยอยู่ระดับต่ำกว่าเราได้สะสมยอดและปรับระดับขึ้นมาสูงเท่าเรา หรือสูงกว่าเรา

หากเกิดการแยกสายงาน สมาชิกทุกคนที่อยู่ภายใต้สายงานของเค้าจะถูกแยกออกไปพร้อมเค้าเช่นกัน ส่งผลให้สมาชิกในสายงานของเรามีจำนวนลดลง ปริมาณยอดที่ทำได้ต่อเดือนลดลง ปริมาณรายได้ที่เราจะได้ต่อเดือนก็ลดลงเช่นกัน

ฟังดูน่ากลัว แต่อย่าเพิ่งตกใจไปดูรายละเอียดให้ดี ในระบบ MGM เราเน้นในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ในทีม ระบบที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การปรับระดับสมาชิกจะต้องดำเนินการโดยสมาชิกคนนั้นเอง ไม่ใช่ระบบอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถพูดคุยเจรจากันในสายงานได้ว่าจะรอไปด้วยกัน หรือขอแยกทาง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่เราสร้างไว้กับลูกทีมของเรา และเท่าที่ผ่านมาก็มีคนที่สมัครใจไม่แยกสายงานจากอัพไลน์เป็นจำนวนหลายเคส

ดึงสายงานคืนได้ เมื่อระดับสมาชิกสูงกว่าลูกทีม

หากเราถูกแยกสายงานไปแล้ว ก็ยังมีโอกาสดึงสายงานคืนกลับมาได้ สิ่งที่ต้องทำคือทำยอดจนปรับระดับขึ้นไปให้สูงกว่าคนที่เคยแยกสายงานออกไป เราจะสามารถดึงเค้า สมาชิกในทีมทั้งหมดของเค้า และยอดที่จะสร้างรายได้ทั้งหมด กลับมาอยู่ภายใต้สายงานเดิมของเราอีกครั้ง และก็เคยมีคนที่ดึงสายงานคืนมาได้เช่นกัน

ถ่ายโอนผู้รับผลประโยชน์ (กรณีเสียชีวิต, บุคคลล้มละลาย)

จะมีกี่ธุรกิจที่เราสามารถโอนรายได้เป็นมรดกให้กับทายาทในรูปแบบ Passive Income ได้

สมมุตว่า เราเป็นเจ้าของร้านข้าวขาหมูร้านดัง ทำกิจการมา 80 ปี เราส่งต่อสูตรให้ทายาท เรามอบร้านและลูกค้าประกันให้ทายาทของเรา แต่มรดกนี้เป็นมรดกที่เป็น Active Income ถ้าหากทายาทของเราเค้าไม่ยืนขายข้าวขาหมูต่อไปเค้าก็ไม่ได้รับรายได้

แต่มรดกในระบบ MGM ของศรีกรุงโบรคเกอร์เป็นมรดกแบบ Passive Income ถึงแม้ทายาทของเราจะไม่ชอบและไม่ทำงานต่อ ขอเพียงเค้ามีใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย หรือใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต และรักษาใบอนุญาตเอาไว้ รายได้ค่าแนะนำและค่าสายงานจากระบบที่เราสร้างเอาไว้ก็จะส่งต่อให้เค้าทุกเดือนไปเรื่อย ๆ

โดยทายาทจะได้รับโอนต่อมรดกทั้งระดับสมาชิก จำนวนสมาชิกในสายงาน และยอดซื้อประกันภัยในสายงาน หากทายาทของเราต้องการพัฒนายอดให้เติบโตขึ้นก็ทำได้ โดยไม่ต้องเริ่มต้นนับ 1 ใหม่

ไม่สามารถเปลี่ยนสายงานได้

พอพูดถึงเงื่อนไขนี้ ไม่สามารถเปลี่ยนสายงานได้เชื่อว่าต้องมีคนลังเลไม่อยากจะทำบ้างแหละ แต่รู้มั้ยครับว่ามันคือคีย์สำคัญที่ทำให้ระบบ MGM ของศรีกรุงโบรคเกอร์สามารถสร้าง Passive Income ให้กับเราได้จริง

เหตุผลเพราะว่า หากเราสามารถเปลี่ยนสายงานได้คิดเหรอว่าเราจะไปคนเดียว เราก็จะต้องพาทีมงานที่เราสร้างมากับมือไปด้วยกันใช่มั้ยครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นระบบจะไม่สามารถสร้าง Passive Income ให้กับเราได้เลย

บางคนอาจจะไม่พึงพอใจสายงาน ไม่พึงพอใจผู้แนะนำด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตาม ไม่อยากจะทำรายได้ให้เค้า อยากออกไปจากเค้า ไม่ยุติธรรมเลยที่ย้ายออกไปไม่ได้ ก็ลองคิดในอีกมุมนึงเราไม่พึงพอใจการดูแลจากผู้แนะนำของเราได้ ก็ย่อมมีคนที่ไม่พึงพอใจเราได้เช่นเดียวกัน

หากลองพิจารณาดูอีกที ความสำเร็จในระบบ MGM ของศรีกรุงโบรคเกอร์ตัวแปรหลักสำคัญไม่ได้อยู่ที่ผู้แนะนำ หรือทีมงานของเรา แต่จริงๆ แล้วอยู่ที่ตัวเราเอง มีคนตั้งมากมายที่ผู้แนะนำออกจากธุรกิจไป แต่ก็สามารถดูแลตนเองและไต่เต้าจนแซงผู้แนะนำไปได้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้