โดนใบสั่งจากกล้องตรวจจับความเร็ว จำเป็นต้องจ่ายหรือไม่?

23 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โดนใบสั่งจากกล้องตรวจจับความเร็ว จำเป็นต้องจ่ายหรือไม่?

โดนใบสั่งจากกล้องตรวจจับความเร็ว จำเป็นต้องจ่ายหรือไม่?
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการควบคุมและตรวจสอบการจราจร กล้องตรวจจับความเร็วกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้จับผู้กระทำความผิดบนท้องถนน โดยเฉพาะการขับรถเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุทางถนน

เมื่อผู้ขับขี่ได้รับ “ใบสั่งจากกล้อง” หลายคนมักเกิดคำถามว่า “จำเป็นต้องจ่ายหรือไม่?” หรือ “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่จ่าย?”
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสถานะทางกฎหมายของใบสั่งประเภทนี้ และวิธีการดำเนินการที่ถูกต้อง

ใบสั่งจากกล้องจราจรคืออะไร?
ใบสั่งที่ออกจาก “กล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ” เป็นเอกสารที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกให้ตามข้อมูลจากระบบกล้องที่บันทึกภาพรถยนต์ที่กระทำผิดกฎหมาย เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ฝ่าไฟแดง หรือขับขี่ผิดช่องทาง

ใบสั่งเหล่านี้จะถูกส่งทางไปรษณีย์ไปยัง “เจ้าของรถ” ที่ระบุอยู่ในทะเบียน และมีสถานะเป็น เอกสารทางกฎหมาย ที่ต้องปฏิบัติตาม

จำเป็นต้องจ่ายหรือไม่?
คำตอบคือ: จำเป็นต้องจ่าย
หากตรวจสอบแล้วว่าใบสั่งเป็นของจริง ออกโดยตำรวจ และระบุเหตุการณ์ชัดเจนว่ามีการกระทำผิดจริง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของรถเป็นผู้ขับเอง หรือผู้อื่นขับโดยได้รับอนุญาต ใบสั่งยังคงมีผลผูกพันทางกฎหมายกับเจ้าของรถ

ถ้าไม่จ่ายจะเกิดอะไรขึ้น?
หากไม่ชำระค่าปรับภายในกำหนดเวลาในใบสั่ง จะมีผลตามมาดังนี้:
1. ไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้
กรมการขนส่งทางบกจะระงับการต่อภาษีประจำปี จนกว่าจะชำระค่าปรับเรียบร้อย
2. เสี่ยงโดนค่าปรับเพิ่มหรือฟ้องร้องทางกฎหมาย
กรณีปล่อยให้สะสมเป็นจำนวนมาก อาจมีการดำเนินคดีตามกฎหมายจราจรเพิ่มเติม
3. มีประวัติผู้กระทำผิดจราจรสะสมในระบบกลาง
ข้อมูลการไม่ชำระค่าปรับจะถูกรวบรวมในฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ชำระค่าปรับได้ที่ไหนบ้าง?
เพื่อความสะดวก ผู้ขับขี่สามารถชำระค่าปรับได้หลากหลายช่องทาง เช่น

  • สถานีตำรวจที่ออกใบสั่ง
  • แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
  • ตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย
  • เว็บไซต์ www.ptm.police.go.th
  • ShopeePay และเคาน์เตอร์ร้านค้าที่ร่วมรายการ
ถ้าคิดว่าไม่ได้ทำผิด ทำอย่างไร?
ผู้รับใบสั่งมีสิทธิ์ยื่นคำคัดค้านหรือร้องเรียนได้ โดยสามารถนำใบสั่งไปที่สถานีตำรวจเจ้าของคดี เพื่อแสดงหลักฐานว่าตนไม่ได้เป็นผู้กระทำผิด เช่น
  • มีหลักฐานว่ารถอยู่คนละพื้นที่
  • มีพยานว่าผู้อื่นเป็นผู้ขับในขณะเกิดเหตุ
  • รถถูกยืมหรือเช่าโดยบุคคลอื่น


------------------------------------------------------------

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: Line: @srikrungmentor (มี @)
ติดต่อ: 080-2956052 (พี่บอย) 080-2951830 (พี่ปูเป้)
ช่องทางการติดต่อ https://instabio.cc/4122708Af3kW

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้