30 จำนวนผู้เข้าชม |
กรณีศึกษา: โรงงานที่รอดจากวิกฤตเพราะทำประกันอัคคีภัยไว้ล่วงหน้า
หลายครั้งเจ้าของโรงงานมักมองว่า “ไฟไหม้คงไม่เกิดขึ้นกับเรา” แต่เมื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นจริง ผลกระทบอาจทำให้ธุรกิจต้องหยุดชะงักหรือถึงขั้นล้มละลายได้ หากไม่มีเครื่องมือในการจัดการความเสี่ยงที่ดีพอ
เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น
โรงงานผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในภาคกลางเกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจรในช่วงกลางดึก เพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสินค้าอย่างรวดเร็ว แม้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ แต่สินค้าจำนวนมากและส่วนหนึ่งของอาคารได้รับความเสียหาย
ผลกระทบหากไม่มีประกัน
ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายอาคารและเครื่องจักรเอง มูลค่าหลายสิบล้านบาท
สูญเสียสินค้าในสต๊อกที่เตรียมส่งให้คู่ค้า
ความเชื่อมั่นของลูกค้าอาจสั่นคลอนเพราะส่งมอบสินค้าไม่ทัน
สิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจรอด
โชคดีที่โรงงานแห่งนี้ทำ ประกันอัคคีภัย ไว้ล่วงหน้า ความคุ้มครองครอบคลุมถึงอาคาร เครื่องจักร และสินค้า ทำให้บริษัทประกันชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ช่วยบรรเทาภาระทางการเงิน และโรงงานสามารถฟื้นฟูกิจการได้เร็วขึ้น
บทเรียนที่ได้
อย่ามองข้ามความเสี่ยง – ไฟไหม้สามารถเกิดได้แม้จะมีมาตรการป้องกัน
ประกันอัคคีภัยคือเครื่องมือสำคัญ – ไม่ใช่แค่คุ้มครองทรัพย์สิน แต่ช่วยให้ธุรกิจมีทุนหมุนเวียนต่อได้
ยิ่งทำไว้ล่วงหน้า ยิ่งปลอดภัย – เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่าเหตุไม่คาดคิดจะมาเมื่อไหร่
สรุป
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่า การทำประกันอัคคีภัยไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่สูญเปล่า แต่คือการลงทุนเพื่อป้องกันอนาคตของธุรกิจ เมื่อวิกฤตมาถึง ประกันจะเป็นเกราะป้องกันที่ทำให้ธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อได้
หากคุณเป็นเจ้าของโรงงาน อย่ารอให้เกิดเหตุการณ์จริงก่อนค่อยคิดถึงประกันภัย เพราะการวางแผนล่วงหน้าจะช่วยรักษาธุรกิจและความมั่นคงในระยะยาว