ความเสี่ยงที่มองไม่เห็นในโรงงาน: 7 ปัจจัยที่อาจทำให้ เคลมไม่ได้

0 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ความเสี่ยงที่มองไม่เห็นในโรงงาน: 7 ปัจจัยที่อาจทำให้ “เคลมไม่ได้”

ความเสี่ยงที่มองไม่เห็นในโรงงาน: 7 ปัจจัยที่อาจทำให้ “เคลมไม่ได้”
หลายโรงงานในประเทศไทยทำประกันอัคคีภัยหรือประกันโรงงานไว้ เพื่อความอุ่นใจในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด
แต่ในความเป็นจริง เมื่อถึงเวลาต้อง “เคลมประกัน” กลับมีหลายกรณีที่บริษัทประกัน “ไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมได้”
สาเหตุไม่ใช่เพราะบริษัทประกันปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่เพราะเจ้าของโรงงาน ละเลยรายละเอียดเล็กน้อยที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเคลม

มาดูกันว่า 7 ความเสี่ยงที่มองไม่เห็นเหล่านี้คืออะไร และคุณควรจัดการอย่างไร เพื่อให้เคลมผ่านได้เร็วและไม่มีปัญหา


1. ใช้พื้นที่โรงงานผิดประเภทจากที่แจ้งไว้ในกรมธรรม์
หลายโรงงานอาจเริ่มจากการผลิตอย่างหนึ่ง แล้วต่อมาขยายกิจการเป็นอีกประเภทโดยไม่ได้แจ้งบริษัทประกัน เช่น
จาก “คลังเก็บของ” กลายเป็น “โรงงานผลิตสินค้า”
ซึ่งความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้หรืออุบัติเหตุแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

คำแนะนำ:
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้งานหรือขยายพื้นที่ ควรแจ้งให้บริษัทประกันทราบทันที เพื่อปรับเงื่อนไขให้ถูกต้อง


2. ไม่มีการบำรุงรักษาเครื่องจักรตามรอบ
เครื่องจักรเป็นหัวใจสำคัญของโรงงาน แต่หากไม่มีการบำรุงรักษาตามระยะ เช่น เปลี่ยนน้ำมัน ตรวจสอบสายพาน หรือระบบไฟฟ้า
เมื่อเกิดความเสียหาย บริษัทประกันอาจถือว่าเป็น “ความเสียหายจากการเสื่อมสภาพ” ซึ่งไม่อยู่ในความคุ้มครอง

คำแนะนำ:
เก็บบันทึกการซ่อมบำรุง (Maintenance Record) ไว้เป็นหลักฐานเสมอ เพราะเอกสารนี้ช่วยให้เคลมผ่านได้ง่ายขึ้นมาก


3. ระบบไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานหรือมีการต่อเติมเอง
ไฟฟ้าลัดวงจรเป็นสาเหตุหลักของไฟไหม้ในโรงงาน แต่บ่อยครั้งที่พบว่า “สายไฟต่อเอง” หรือ “ไม่มีการตรวจสอบระบบไฟตามปี”
หากตรวจพบว่าเป็นการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน บริษัทประกันอาจไม่รับเคลม

คำแนะนำ:
ให้วิศวกรไฟฟ้าที่ได้รับใบอนุญาตมาตรวจสอบระบบทุกปี และเก็บใบรับรองไว้ยืนยันมาตรฐานความปลอดภัย


4. ไม่มีระบบป้องกันอัคคีภัยที่ใช้งานได้จริง
แม้จะมีถังดับเพลิงหรือระบบสปริงเกอร์ แต่หากหมดอายุหรือไม่พร้อมใช้งานในวันที่เกิดเหตุ ก็อาจถูกปฏิเสธการเคลมได้
เพราะถือว่าเจ้าของโรงงานละเลยการดูแลความปลอดภัยพื้นฐาน

คำแนะนำ:
ตรวจเช็กและบันทึกการตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงทุก 6 เดือน รวมถึงฝึกซ้อมดับเพลิงให้พนักงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง


5. เก็บวัตถุไวไฟโดยไม่แจ้งบริษัทประกัน
สารเคมี น้ำมัน สี ทินเนอร์ หรือวัตถุดิบที่ติดไฟง่าย หากมีอยู่ในโรงงานแต่ไม่ได้แจ้งในกรมธรรม์ ถือว่าผิดเงื่อนไข
และอาจถูกปฏิเสธการชดเชยทั้งหมด

คำแนะนำ:
แจ้งรายละเอียดวัตถุไวไฟที่มีให้ครบตั้งแต่ต้น หรือทำ “ประกันภัยความเสี่ยงเฉพาะสารเคมี” เพิ่มเติม


6. เอกสารประกอบการเคลมไม่ครบ
อีกสาเหตุหลักที่ทำให้เคลมล่าช้า คือการส่งเอกสารไม่ครบ เช่น ใบแจ้งความ, รายงานความเสียหาย, ใบเสนอราคาซ่อม, หรือรูปถ่ายหน้างาน
แม้จะเป็นเหตุเคลมจริง แต่หากไม่มีเอกสารยืนยันครบ ก็ไม่สามารถดำเนินการจ่ายค่าสินไหมได้

คำแนะนำ:
เมื่อเกิดเหตุ ควรถ่ายภาพเก็บทุกมุม และรีบแจ้งนายหน้าหรือบริษัทประกันทันทีเพื่อขอแบบฟอร์มเอกสารที่ต้องใช้


7. ไม่ต่ออายุกรมธรรม์ตรงเวลา
โรงงานบางแห่งละเลยการต่ออายุ เพราะคิดว่า “ยังไม่ถึงเวลาเกิดเหตุ”
แต่หากเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่ประกันหมดอายุ แม้เพียง 1 วัน ก็ไม่สามารถเคลมได้

คำแนะนำ:
ควรต่ออายุกรมธรรม์ล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน และตรวจสอบว่าทุนประกันยังครอบคลุมมูลค่าทรัพย์สินปัจจุบันหรือไม่


สรุป
การทำประกันโรงงานเป็นสิ่งจำเป็น แต่การ “ดูแลเงื่อนไขให้ถูกต้อง” สำคัญยิ่งกว่า
เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงอาจไม่คุ้มครองเลย หากละเลยเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้

อย่ารอให้เคลมไม่ผ่านแล้วค่อยแก้ไข
เพียงตรวจสอบและปรับให้ถูกต้องตั้งแต่วันนี้ โรงงานของคุณก็จะได้รับการคุ้มครองอย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์


สนใจลงทุนแฟรนไชส์ DDC EXPRESS
ติดต่อเรา เพื่อสั่งซื้อ สอบถาม หรือขอใบเสนอราคา
เบอร์โทร : 080-2956052 (คุณบอย) | 080-2951830 (คุณปูเป้)
Line@: ddcexpress

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้