3 ความผิดพลาดที่ทำให้เคลมประกันเครื่องจักร ไม่ผ่าน

3 จำนวนผู้เข้าชม  | 

3 ความผิดพลาดที่ทำให้เคลมประกันเครื่องจักร “ไม่ผ่าน”

3 ความผิดพลาดที่ทำให้เคลมประกันเครื่องจักร “ไม่ผ่าน”
หลายโรงงานทำ “ประกันเครื่องจักร” เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานจริง
แต่เมื่อถึงเวลาต้องเคลม กลับเจอปัญหา “เคลมไม่ผ่าน” หรือ “เคลมล่าช้า”
ซึ่งมักไม่ได้เกิดจากบริษัทประกันเพียงฝ่ายเดียว แต่เกิดจาก “ความผิดพลาดของผู้เอาประกัน” ที่ไม่รู้ตัว

บทความนี้จะพาคุณมาดู 3 ความผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุด และแนวทางแก้ไข เพื่อให้การเคลมครั้งต่อไปของคุณ “ผ่านง่าย ได้เร็ว”


1. ไม่บันทึกหรือขาดการบำรุงรักษาเครื่องจักรตามรอบ
สาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้เคลมไม่ผ่าน คือ เครื่องจักรขาดการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
เพราะบริษัทประกันถือว่าความเสียหายที่เกิดจาก “ความเสื่อมสภาพ” หรือ “ละเลยการดูแล” ไม่อยู่ในเงื่อนไขความคุ้มครอง

ตัวอย่างเช่น

ไม่เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นตามระยะ
ไม่ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายใน
ไม่ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนไส้กรองอากาศตามรอบ
คำแนะนำ:
จัดทำ “บันทึกการซ่อมบำรุง (Maintenance Record)” สำหรับแต่ละเครื่องจักร
เก็บใบงานของช่างทุกครั้ง เพราะเอกสารเหล่านี้คือหลักฐานสำคัญในการยืนยันว่าเครื่องได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง


2. ใช้เครื่องจักรผิดประเภท หรือใช้งานเกินกำลัง
อีกสาเหตุที่พบบ่อยคือการ ใช้งานเครื่องจักรไม่ตรงตามข้อกำหนดของผู้ผลิต เช่น

เดินเครื่องเกินกำลังโหลดที่กำหนด
ใช้งานต่อเนื่องโดยไม่พักเครื่อง
ใช้เครื่องจักรผลิตสินค้าที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์นั้น
เมื่อเกิดความเสียหาย บริษัทประกันอาจตรวจสอบและพบว่า “สาเหตุเกิดจากการใช้งานผิดวิธี”
ซึ่งจะถือเป็นความเสียหายที่ไม่อยู่ในความคุ้มครอง

คำแนะนำ:
ให้ตรวจสอบคู่มือการใช้งานของเครื่องจักรทุกเครื่อง และอบรมพนักงานผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
หากมีการปรับเปลี่ยนการใช้งาน เช่น เพิ่มรอบการผลิต ควรแจ้งบริษัทประกันเพื่อปรับเงื่อนไขให้สอดคล้อง


3. แจ้งเหตุช้า หรือเอกสารไม่ครบตอนเคลม
บางโรงงานรอจนกว่าจะซ่อมเสร็จถึงค่อยแจ้งเคลม หรือส่งเอกสารไม่ครบ เช่น ใบเสนอราคาซ่อม รายงานความเสียหาย หรือรูปถ่ายหน้างาน
ทำให้บริษัทประกันไม่สามารถประเมินเหตุการณ์ได้ทันเวลา และอาจปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมได้

คำแนะนำ:

แจ้งเหตุทันทีภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ
ถ่ายภาพหน้างานในมุมต่าง ๆ ก่อนเริ่มซ่อม
เก็บหลักฐานการแจ้งเหตุ เช่น ใบรายงานเหตุการณ์ หรืออีเมลแจ้งบริษัทประกัน
ติดต่อผ่านนายหน้าหรือผู้ดูแลกรมธรรม์ เพื่อช่วยประสานงานให้ครบทุกขั้นตอน

เคล็ดลับสำคัญ: เตรียมพร้อมก่อนเคลมเสมอ
เก็บข้อมูลเครื่องจักร เช่น รุ่น หมายเลขเครื่อง วันที่ติดตั้ง
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบี้ยประกันและทุนประกันยังมีผลคุ้มครอง
แยกความเสียหายจาก “อุบัติเหตุ” กับ “สึกหรอตามการใช้งาน” ให้ชัด
ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญจัดทำรายงานสาเหตุของความเสียหาย (Technical Report) ทุกครั้ง

สรุป
การเคลมประกันเครื่องจักรไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจเงื่อนไขและเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่ต้น
หลีกเลี่ยง 3 ความผิดพลาดนี้ให้ได้ — เครื่องจักรจะได้รับความคุ้มครองเต็มที่ และคุณจะได้รับค่าสินไหมโดยไม่ต้องเสียเวลาเถียงกับบริษัทประกัน

จำไว้ว่า “ประกันเครื่องจักร” ไม่ได้มีไว้ตอนเครื่องพังเท่านั้น
แต่คือเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าได้ต่อเนื่องทุกวัน


 สนใจเช็กเบี้ย ประกันเครื่องจักร (Warehouse Insurance) ติดต่อได้ที่

คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor

คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor

Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้