17 จำนวนผู้เข้าชม |
5 อุตสาหกรรมที่ควรทำประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอกมากที่สุด
ในยุคที่การฟ้องร้องและการเรียกร้องค่าเสียหายเกิดขึ้นได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว “ความประมาทเพียงเล็กน้อย” ของธุรกิจ อาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายหลักแสนหรือหลักล้านบาทโดยไม่คาดคิด
ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Public Liability Insurance)
คือเครื่องมือที่ช่วยปกป้องธุรกิจจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับ “ลูกค้า คู่ค้า หรือประชาชนทั่วไป”
แต่คุณรู้หรือไม่? บางอุตสาหกรรมมีความเสี่ยงมากกว่าที่คิด และจำเป็นต้องมีประกันนี้ไว้เป็น “เกราะป้องกันหลัก”
มาดูกันว่า 5 อุตสาหกรรมใดที่ไม่ควรมองข้ามประกันประเภทนี้
1. โรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้า
โรงงานคือสถานที่ที่มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ พลังงานไฟฟ้า และวัตถุดิบจำนวนมาก
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็น “แหล่งความเสี่ยงสูง” ทั้งต่อพนักงานและบุคคลภายนอก
ตัวอย่างความเสี่ยง:
ไฟไหม้จากเครื่องจักรลัดวงจร ลามไปยังพื้นที่ข้างเคียง
เศษวัสดุตกใส่รถหรืออาคารข้างโรงงาน
กลิ่นหรือควันจากกระบวนการผลิตสร้างความเดือดร้อนต่อชุมชน
เหตุผลที่ควรมีประกัน:
ประกันจะคุ้มครองทั้ง “ทรัพย์สินของผู้อื่น” และ “ร่างกายของบุคคลภายนอก” ที่ได้รับผลกระทบจากโรงงาน
ช่วยให้เจ้าของโรงงานไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเองทั้งหมด
2. ธุรกิจก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง
อุบัติเหตุในไซต์งานเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้จะมีมาตรการความปลอดภัยก็ตาม
ธุรกิจก่อสร้างจึงเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่บริษัทประกันจัดอยู่ใน “กลุ่มเสี่ยงสูง”
ตัวอย่างความเสี่ยง:
วัสดุตกใส่รถที่ผ่านไปมา
ฝุ่นหรือเสียงดังสร้างความรบกวนแก่ชุมชน
คนภายนอกได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในพื้นที่ก่อสร้าง
เหตุผลที่ควรมีประกัน:
ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการชดเชยผู้เสียหายและคดีความตามกฎหมาย
โดยเฉพาะโครงการที่ต้องมีการตรวจสอบจากเจ้าของงานหรือนิติบุคคล
3. ร้านอาหาร คาเฟ่ และสถานบริการ
ธุรกิจบริการลูกค้าโดยตรง เช่น ร้านอาหารและคาเฟ่ เป็นอุตสาหกรรมที่ “เสี่ยงต่ออุบัติเหตุในพื้นที่” มากที่สุด
ตัวอย่างความเสี่ยง:
ลูกค้าลื่นล้มเพราะพื้นเปียก
น้ำร้อนหกใส่ลูกค้า
ป้ายร้านหรืออุปกรณ์ตกใส่คน
เหตุผลที่ควรมีประกัน:
ประกันจะเข้ามาช่วยชดเชยค่าเสียหายแทนร้าน เช่น ค่ารักษาพยาบาลหรือค่าชดเชยทางกฎหมาย
ช่วยให้ร้านไม่เสียชื่อเสียงและไม่กระทบความเชื่อมั่นของลูกค้า
4. โรงแรม รีสอร์ต และฟิตเนส
ธุรกิจบริการที่มีผู้มาใช้บริการจำนวนมากทุกวัน ยิ่งมีความเสี่ยงสูงจากเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้
ตัวอย่างความเสี่ยง:
แขกในโรงแรมลื่นล้มบริเวณสระน้ำ
เครื่องออกกำลังกายในฟิตเนสหลุดระหว่างใช้งาน
สปาหรือซาวน่าเกิดอุบัติเหตุทางไฟฟ้า
เหตุผลที่ควรมีประกัน:
นอกจากช่วยคุ้มครองค่าเสียหายแล้ว ยังเป็นหลักประกันให้กับนักท่องเที่ยวและลูกค้า
ว่าองค์กรให้ความสำคัญต่อ “ความปลอดภัยและความรับผิดชอบ” อย่างแท้จริง
5. บริษัทขนส่งและโลจิสติกส์
รถบรรทุกหรือยานพาหนะขนส่งสินค้าอาจสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินของบุคคลภายนอกได้ทุกเมื่อ
โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าในพื้นที่ชุมชนหรือเขตเมือง
ตัวอย่างความเสี่ยง:
รถบรรทุกชนกำแพงบ้านหรือรถคนอื่น
สินค้าหล่นใส่รถของบุคคลภายนอก
เกิดอุบัติเหตุทำให้คนเดินถนนบาดเจ็บ
เหตุผลที่ควรมีประกัน:
ช่วยคุ้มครองค่าเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
รวมถึงค่าทนายความและการต่อสู้คดีที่อาจตามมา
สรุป
ทุกอุตสาหกรรมมีความเสี่ยง แต่บางประเภทมี “โอกาสสร้างผลกระทบต่อผู้อื่น” สูงกว่า
การมี ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Public Liability Insurance)
จึงเป็นมากกว่าความคุ้มครอง — มันคือ เครื่องมือบริหารความเสี่ยง ที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
เพราะความเสียหายเพียงครั้งเดียว อาจมากพอจะหยุดธุรกิจทั้งชีวิตได้
สนใจเช็กเบี้ย ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ติดต่อได้ที่
คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor
คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor
Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย