ประกันชีวิตแบบไหนดี ตอบโจทย์วัยเรามากที่สุด?

27 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ประกันชีวิตแบบไหนดี ตอบโจทย์วัยเรามากที่สุด?

วัยเด็กถึงวัยเรียน
เด็กเล็ก เป็นวัยที่มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายมากที่สุด เนื่องจากภูมิต้านทานโรคยังต่ำอยู่ มีโอกาสเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาลเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นนี้ พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรจะมีประกันสุขภาพสำหรับเด็กไว้เพื่อความอุ่นใจ ส่วนเด็กโตที่เริ่มเข้าโรงเรียนแล้ว ไปจนถึงช่วงวัยรุ่น เป็นวัยที่เริ่มซุกซนมีการทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นที่มักจะใช้ชีวิตโลดโผน ดังนั้นช่วงวัยนี้อาจจะต้องมีการทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเพิ่มเติมด้วย
สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองก็อาจจะพิจารณาการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เพื่อเป็นการเก็บออมเงินก้อนไว้เป็นทุนการศึกษาให้ลูกๆ นอกจากนี้ข้อดีของการทำประกันชีวิตที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ ก็คือสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้แบบไม่เสียภาษี เนื่องจากสามารถระบุผู้รับผลประโยชน์ในกรณีผู้เอาประกันเสียชีวิต หรือเมื่อครบกำหนดสัญญาแล้วนั่นเอง

วัยรุ่นถึงวัยทำงาน
วัยทำงานเป็นวัยที่เริ่มมีรายได้ สนุกกับการใช้จ่าย แล้วก็ต้องเริ่มเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว  ซึ่งอาจจะต้องมีการเสียภาษีเงินได้จากการทำงานด้วย จึงต้องมีการบริหารจัดการวางแผนทางการเงินที่ดี สร้างวินัยการออมให้เป็นนิสัย จึงขอแนะนำประกันชีวิตที่เหมาะกับวัยนี้ คือ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เพราะนอกจากจะเป็นการเก็บไว้ใช้ในอนาคตได้แล้ว ยังนำเบี้ยประกันฯ มาใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย  สำหรับคนที่ทำงานมาได้สักระยะหนึ่ง และพอมีเงินเก็บอยู่ คุณอาจจะเลือกทำประกันชีวิตแบบคุ้มครองระยะยาว รวมกับประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และโรคร้ายแรงไว้ด้วย เนื่องจากหากคุณเลือกทำประกันเหล่านี้ในช่วงอายุที่ยังไม่มาก ค่าเบี้ยประกันชีวิตจึงยังไม่สูงเกินไปนัก และจ่ายเบี้ยคงที่ตลอดอายุสัญญา อีกทั้งยังได้ความคุ้มครองจากประกันสุขภาพเพิ่มเติม ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ และโรคร้ายแรง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย หรือเวลาเกิดอุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครองต่อเนื่อง โดยไม่ต้องพึ่งสวัสดิการจากที่ทำงาน หากเกิดในกรณีที่คุณว่างงาน เปลี่ยนงาน หรือตกงานก็ยังอุ่นใจได้


วัยสร้างครอบครัวหรือวัยผู้ใหญ่
ช่วงวัยนี้เป็นวัยที่มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบมากขึ้น ทั้งเรื่องการงาน และการเลี้ยงดูครอบครัว ดังนั้นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดคือความมั่นคง และป้องกันความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นหัวหน้าครอบครัว หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากไปก่อนวัยอันควร ก็ควรจะมีหลักประกันให้กับครอบครัวเพื่อไม่ให้ลำบาก ดังนั้นจึงควรทำประกันชีวิตแบบตลอดชีพไว้ โดยให้คำนวณทุนประกันชีวิตให้ครอบคลุมภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว
นอกจากนี้อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องคำนึงถึงก็คือการวางแผนเตรียมเงินเพื่อให้มีใช้ในช่วงวัยเกษียณ โดยที่ไม่ต้องเป็นภาระลูกหลานในอนาคต หรือในยามที่ไม่มีรายได้ก็ยังมีเงินใช้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร ดังนั้นคุณควรมีประกันชีวิตแบบบำนาญเอาไว้ด้วย เพราะเมื่อถึงอายุที่กำหนดคุณก็จะได้รับเงินเป็นงวดๆตามที่สัญญาประกันชีวิตกำหนด ทำให้แน่ใจได้ว่าคุณจะมีเงินใช้หลังเกษียณเพียงพอตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน


วัยเกษียณหรือวัยผู้สูงอายุ
ช่วงวัยนี้เป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ มีเวลาอยู่กับลูกๆ หลานๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการทำงาน หรือภาระค่าใช้จ่ายใดๆ ถ้าคุณได้เตรียมการวางแผนทางการเงินไว้เป็นอย่างดีแล้ว และหลายคนก็ยังอาจมีการวางแผนเรื่องมรดกเผื่อไว้ให้ลูกหลานด้วย ซึ่งการทำประกันชีวิตก็มีข้อดีในแง่ของการจัดการภาษีมรดกด้วย เพราะผู้รับผลประโยชน์จะไม่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น และในปัจจุบันก็มีแผนประกันชีวิตสำหรับผู้สูงอายุ แบบมีเงินคืนระหว่างปี และไม่ต้องตรวจสุขภาพด้วย ซึ่งได้ประโยชน์ 2 ต่อ เหมาะกับวัยเกษียณเป็นอย่างมาก

สรุป จะเห็นได้ว่าการทำประกันชีวิตในแต่ละช่วงวัยก็มีความเหมาะสมแตกต่างกันไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: Line: @srikrungmentor (มี @)
ติดต่อ: 080-2956052 (พี่บอย) 080-2951830 (พี่ปูเป้)
ช่องทางการติดต่อ https://instabio.cc/4122708Af3kW

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้