“ประกันภัยสนามกอล์ฟ” จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ เพื่อช่วยคุ้มครองความเสี่ยงเหล่านี้ และสร้างความอุ่นใจให้เจ้าของสนาม
ประกันภัยสนามกอล์ฟ คุ้มครองอะไรบ้าง?
- ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Public Liability)
กรณีที่ผู้มาใช้บริการได้รับบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหายจากอุบัติเหตุในสนาม เช่น ลูกกอล์ฟพุ่งไปโดนรถผู้มาใช้บริการ หรือคนเดินผ่าน
- ความเสียหายต่อทรัพย์สินของสนาม
เช่น อาคารสโมสร รถกอล์ฟ เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการดูแลสนาม หากได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ หรือภัยธรรมชาติ
- ความเสียหายจากการหยุดชะงักของธุรกิจ
หากสนามต้องปิดให้บริการชั่วคราว เช่น จากพายุ หรืออุบัติเหตุขนาดใหญ่ ทำให้สูญเสียรายได้ ประกันประเภทนี้สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปได้
- ความรับผิดของพนักงานหรือเจ้าหน้าที่
หากเกิดข้อผิดพลาดจากการทำงานของพนักงานที่ส่งผลกระทบต่อผู้มาใช้บริการ ประกันจะเข้ามาคุ้มครองตามความเหมาะสม
แล้วจำเป็นไหม? ต้องทำทุกสนามหรือเปล่า?
- ในความเป็นจริง ไม่มีกฎหมายบังคับ ให้สนามกอล์ฟต้องทำประกันภัย แต่ “ความเสี่ยง” เกิดขึ้นได้ทุกวัน และบางเหตุการณ์อาจสร้างความเสียหายเป็นหลักแสนหรือหลักล้านบาท
- ประกันภัยสนามกอล์ฟ จึงเป็น “เครื่องมือบริหารความเสี่ยง” ที่เจ้าของสนามไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากช่วยป้องกันภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่แล้ว ยังแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ และใส่ใจความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการอีกด้วย
สรุป
สนามกอล์ฟคือธุรกิจที่มีมูลค่าสูง มีทั้งทรัพย์สิน ผู้เล่น และความเสี่ยงจากธรรมชาติ การมีประกันที่ครอบคลุมจึงเปรียบเสมือน “เกราะป้องกัน” ที่ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย
หากคุณเป็นเจ้าของหรือผู้บริหารสนามกอล์ฟ ลองพิจารณาแผนประกันภัยสนามกอล์ฟอย่างรอบคอบ เพราะการ “ป้องกันก่อนเกิด” ดีกว่า “รับมือเมื่อสายเกินไป”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: Line: @srikrungmentor (มี @)
ติดต่อ: 080-2956052 (พี่บอย) 080-2951830 (พี่ปูเป้)
ช่องทางการติดต่อ https://instabio.cc/4122708Af3kW