1 จำนวนผู้เข้าชม |
ปัจจัยเศรษฐกิจหลักที่กดดันตลาดประกันภัย
เศรษฐกิจชะลอตัว
ธนาคารโลกปรับลดประมาณการ GDP ไทยปี 2568 เหลือ 1.6% ต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาล สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่อ่อนแรง
หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง
ข้อมูลจากเครดิตบูโรชี้ว่าหนี้ครัวเรือนสิ้นปี 2566 สูงถึง 13.7 ล้านล้านบาท และหนี้เสียพุ่งขึ้น โดยเฉพาะหนี้ผ่อนรถยนต์ เพิ่มขึ้นกว่า 28% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
กำลังซื้อภาคเอกชนลดลง
แม้อัตราเงินเฟ้อจะต่ำที่ 0.8% แต่รายได้จริงของผู้บริโภคลดลง ส่งผลให้การซื้อประกันภัยชะลอตัวตาม
นักท่องเที่ยวลดลง
ช่วง 4 เดือนแรกของปี นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเล็กน้อย โดยเฉพาะกลุ่มหลักอย่างจีนและมาเลเซีย ขณะที่ประเทศคู่แข่งในอาเซียนกลับเติบโต
ผลกระทบต่อกลุ่มประกันภัย
ประกันการเดินทาง
คาดว่าได้รับผลกระทบมากที่สุดจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง เช่น บริเวณบรรทัดทองซบเซาจากการหายไปของลูกค้าจีน
ประกันรถยนต์
หนี้ผ่อนรถที่สูงขึ้น อาจส่งผลให้ยอดขายรถใหม่และการต่อประกันชะลอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มไฟแนนซ์
ประกันสุขภาพ
อาจชะลอการเติบโตจากกำลังซื้อที่ลดลง แม้ยังเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ
ประกันทรัพย์สิน
ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์
โอกาสยังพอมี
ในส่วนของประกันเดินทางสำหรับคนไทยยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าปี 2568 จะมีผู้ทำประกันเดินทางประมาณ 10 ล้านคน เติบโต 5–7%
กลยุทธ์ของคนกลางประกันภัย
ดูแลฐานลูกค้าเก่าให้ดี
อัปสกิลความรู้ผลิตภัณฑ์ให้ทันสถานการณ์
ใช้เทคโนโลยี เช่น AI, CRM, หรือระบบแจ้งเตือนการต่ออายุประกันมาช่วยบริหารงาน
วางแผนการตลาดจากข้อมูลสถิติ เช่น สถิติยอดขายประกันรถยนต์ หรือกลุ่มประกัน Non-Motor
สรุปแนวโน้มตลาดครึ่งปีหลัง 2568
การเติบโตของตลาดประกันภัยโดยรวมคาดว่าจะอยู่ที่ 0–2%
กลุ่มที่อาจยังเติบโตได้คือ ประกันเดินทางสำหรับคนไทย และบางกลุ่มในประกันรถยนต์
คนกลางประกันภัยที่ปรับตัวได้เร็ว รู้เท่าทันตลาด และให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ จะยังมีโอกาสเติบโต
หากคุณต้องการคำปรึกษาเพื่อวางแผนขายประกัน หรือเข้ารับการอบรมพัฒนาทักษะ ติดต่อเราได้เลย
Line: @srikrungmentor (มี @ ข้างหน้า)
พี่บอย: 080-2956052 | พี่ปูเป้: 080-2951830
ช่องทางอื่น ๆ: https://instabio.cc/4122708Af3kW