75 จำนวนผู้เข้าชม |
ความเสี่ยงหลักของธุรกิจออนไลน์
สินค้าเสียหายระหว่างขนส่ง
เกิดจากการกระแทก ตกหล่น หรือการแพ็กสินค้าไม่เหมาะสม
การสูญหายหรือถูกโจรกรรม
สินค้าที่มีมูลค่าสูง เช่น โทรศัพท์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องประดับ มักตกเป็นเป้า
การคืนสินค้า (Return & Refund)
ลูกค้าอาจคืนสินค้าเพราะชำรุด ได้ของไม่ตรงปก หรือเสียหายจากการจัดส่ง
ความเสียหายต่อสต็อกสินค้า
เกิดจากอัคคีภัย น้ำท่วม หรือภัยธรรมชาติ
ปัญหาความรับผิดชอบทางกฎหมาย
เช่น ลูกค้าได้รับอันตรายจากสินค้าที่มีข้อบกพร่อง
ประกันภัยที่เหมาะกับผู้ประกอบการ e-commerce
1. ประกันภัยสินค้าระหว่างขนส่ง (Cargo Insurance)
คุ้มครองสินค้าในระหว่างการจัดส่ง ครอบคลุมทั้งความเสียหาย สูญหาย และการโจรกรรม
2. ประกันภัยทรัพย์สิน (Property Insurance)
ปกป้องคลังสินค้าและสต็อกจากไฟไหม้ น้ำท่วม และภัยธรรมชาติ
3. ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก (Liability Insurance)
คุ้มครองค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและการชดเชย หากสินค้าที่จำหน่ายก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภค
4. ประกันธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption Insurance)
ชดเชยรายได้ที่สูญเสียหากเกิดเหตุใหญ่จนไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ
ข้อดีของการทำประกันธุรกิจออนไลน์
ลดความเสี่ยงจากค่าใช้จ่ายไม่คาดคิด
เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าและคู่ค้า
ช่วยสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของร้านค้า
สนับสนุนการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
สรุป
การทำธุรกิจออนไลน์ไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่ยังต้องจัดการกับความเสี่ยงที่มากับการขนส่ง การเก็บรักษา และการคืนสินค้า การทำ ประกันภัยสำหรับธุรกิจออนไลน์ จึงเป็นการลงทุนที่ช่วยปกป้องผู้ประกอบการจากความสูญเสีย และสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
สนใจเช็กเบี้ย ประกันภัยธุรกิจออนไลน์ / e-commerce ติดต่อได้ที่
คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor
คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor
Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย