41 จำนวนผู้เข้าชม |
ประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์: ทำไมธุรกิจควรให้ความสำคัญมากกว่าประกันรถส่วนบุคคล
การใช้รถยนต์ในเชิงธุรกิจมีความเสี่ยงที่แตกต่างจากการใช้รถส่วนบุคคลโดยสิ้นเชิง รถที่วิ่งเพื่อการขนส่งสินค้า รับส่งผู้โดยสาร หรือใช้ในงานบริษัท ล้วนมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายสูงกว่า และนี่คือเหตุผลที่ ประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ (Commercial Car Insurance) มีความสำคัญต่อเจ้าของธุรกิจมากกว่าที่คิด
1. ความเสี่ยงของรถเชิงพาณิชย์สูงกว่ารถส่วนบุคคล
รถเชิงพาณิชย์มักวิ่งระยะทางไกล ใช้งานถี่ และทำงานหนักกว่ารถทั่วไป
มีผู้โดยสารหรือสินค้าประกอบอยู่เสมอ ความเสียหายจึงไม่ใช่แค่ตัวรถ แต่ยังรวมถึงชีวิต ทรัพย์สิน และชื่อเสียงของธุรกิจ
2. ความคุ้มครองที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะ
คุ้มครองผู้โดยสารและบุคคลที่สามในวงเงินสูงกว่าประกันส่วนบุคคล
มีความคุ้มครองสำหรับสินค้าที่บรรทุก (ในบางแบบประกัน)
คุ้มครองพนักงานขับรถ และสามารถเพิ่มความคุ้มครองพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ
3. ลดภาระค่าใช้จ่ายหากเกิดเหตุไม่คาดคิด
อุบัติเหตุของรถเชิงพาณิชย์อาจทำให้เกิดค่าเสียหายมหาศาล เช่น รถบรรทุกชนทำให้สินค้าพัง หรือรถตู้โดยสารเกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บหลายคน หากไม่มีประกันเชิงพาณิชย์ ธุรกิจอาจต้องรับภาระเองทั้งหมด
4. เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
การมีประกันเชิงพาณิชย์เป็นการแสดงให้คู่ค้าและลูกค้าเห็นว่า ธุรกิจให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการจัดการความเสี่ยง ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำงานร่วมกัน
5. ทางเลือกที่ยืดหยุ่นมากกว่า
ประกันรถเชิงพาณิชย์มีหลายประเภท เช่น ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ประกันภัยภาคสมัครใจ ประกันภัยสินค้าบนรถ หรือประกันภัยสำหรับรถขนส่งเฉพาะกิจ ทำให้ธุรกิจเลือกปรับความคุ้มครองได้ตามลักษณะการใช้งาน
สรุป
สำหรับธุรกิจที่ใช้รถในการดำเนินงาน การเลือกประกันรถยนต์เชิงพาณิชย์ไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่คือการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงและปกป้องธุรกิจ เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด ประกันจะช่วยแบ่งเบาภาระและรักษาความต่อเนื่องของการดำเนินงานได้อย่างแท้จริง
หากคุณเป็นเจ้าของกิจการและกำลังมองหาความคุ้มครองที่เหมาะสมกับรถของบริษัท ติดต่อ ศรีกรุงโบรคเกอร์ ได้เลย มีบริษัทประกันชั้นนำกว่า 30 แห่งให้เลือก พร้อมที่ปรึกษาด้านประกันภัยคอยแนะนำ