22 จำนวนผู้เข้าชม |
กรณีศึกษา: โรงงานที่รอดจากวิกฤตเพราะมีประกันภัยช่วยไว้ทันเวลา
หลายโรงงานในประเทศไทยต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือเครื่องจักรขัดข้อง ซึ่งสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินและรายได้อย่างมหาศาล แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีโรงงานหลายแห่งที่สามารถ “กลับมายืนได้” เพราะมี ประกันภัยโรงงาน คอยคุ้มครองในเวลาที่สำคัญที่สุด
บทความนี้จะพาคุณไปดูกรณีศึกษาจริงของโรงงานที่สามารถผ่านพ้นวิกฤตได้ เพราะ “วางแผนเรื่องประกันไว้ก่อน”
กรณีที่ 1: โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ — รอดจากไฟไหม้ใหญ่
โรงงานเฟอร์นิเจอร์ขนาดกลางในจังหวัดสมุทรสาครเกิดไฟไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรกลางดึก ไฟลุกลามไปทั้งโกดังเก็บไม้และเครื่องจักรเสียหายเกือบทั้งหมด มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท
โชคดีที่เจ้าของโรงงานได้ทำ ประกันภัยโรงงานแบบครอบคลุม (Industrial All Risks) ซึ่งคุ้มครองอัคคีภัยและภัยธรรมชาติ บริษัทประกันจ่ายค่าสินไหมกว่า 25 ล้านบาท ช่วยให้สามารถซ่อมแซมอาคารและซื้อเครื่องจักรใหม่ได้ทันที ทำให้กลับมาผลิตต่อได้ภายใน 4 เดือน
บทเรียนสำคัญ: การทำประกันที่ครอบคลุมอัคคีภัยและทรัพย์สินทั้งหมด ช่วยให้ธุรกิจไม่ต้องหยุดชะงักนานเกินไป
กรณีที่ 2: โรงงานอาหาร — เครื่องจักรเสียหายกลางไลน์ผลิต
โรงงานผลิตอาหารในจังหวัดนครปฐม ใช้เครื่องจักรราคาแพงนำเข้าจากต่างประเทศ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท วันหนึ่งเครื่องจักรเกิดขัดข้องจากแรงดันไฟฟ้าสูง ทำให้ระบบควบคุมเสียหายทั้งหมด ต้องหยุดการผลิตทันที
แต่ด้วยความที่โรงงานมี ประกันภัยเครื่องจักร (Machinery Breakdown Insurance) บริษัทประกันได้ชดเชยค่าซ่อมและค่าเปลี่ยนอะไหล่กว่า 2 ล้านบาท ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน โรงงานสามารถกลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติ
บทเรียนสำคัญ: ประกันเครื่องจักรช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ และลดเวลาหยุดผลิตได้จริง
กรณีที่ 3: โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ — น้ำท่วมฉับพลัน
ในช่วงฤดูฝนปี 2565 โรงงานอิเล็กทรอนิกส์ในนิคมอุตสาหกรรมภาคกลางเจอน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร ส่งผลให้สินค้าคงคลังและวัตถุดิบเสียหายกว่า 15 ล้านบาท
เพราะมี ประกันภัยโรงงานที่ครอบคลุมภัยธรรมชาติ บริษัทประกันชดเชยความเสียหายเต็มวงเงิน 12 ล้านบาท ทำให้โรงงานสามารถฟื้นฟูการผลิตได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ โดยไม่ต้องใช้เงินทุนสำรองของบริษัทเอง
บทเรียนสำคัญ: โรงงานในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ควรมีประกันภัยที่ครอบคลุมภัยธรรมชาติเสมอ
ทำไมประกันภัยโรงงานถึงสำคัญ
ป้องกันการสูญเสียทางการเงินขนาดใหญ่
ช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้เร็วหลังเหตุการณ์ร้าย
ลดภาระเจ้าของโรงงานที่ต้องจ่ายค่าซ่อมหรือสร้างใหม่
เพิ่มความมั่นใจให้คู่ค้าและนักลงทุน
สรุป
จากกรณีศึกษาทั้งสาม จะเห็นได้ว่า “ประกันภัยโรงงาน” ไม่ได้เป็นเพียงเอกสารทางธุรกิจ แต่คือ เครื่องมือป้องกันความเสียหายที่สามารถช่วยชีวิตธุรกิจได้จริง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด การวางแผนทำประกันไว้ล่วงหน้าจะช่วยให้คุณไม่ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์
สนใจเช็กเบี้ย ประกันภัยโรงงานอุตสาหกรรม ติดต่อได้ที่
คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor
คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor
Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย