ความแตกต่างระหว่าง ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก

ความแตกต่างระหว่าง “ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก” กับ “ประกันภัยทรัพย์สิน”

เจ้าของธุรกิจหลายคนมักสับสนระหว่าง ประกันภัยทรัพย์สิน (Property Insurance) กับ ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก (Public Liability Insurance)
เพราะทั้งสองแบบดูเหมือนจะคุ้มครอง “ความเสียหาย” คล้ายกัน แต่ในความเป็นจริง ความคุ้มครองนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง

การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณเลือกทำประกันได้ถูกต้อง ครอบคลุมทั้ง “ทรัพย์สินของคุณ” และ “ความเสียหายที่คุณอาจทำให้ผู้อื่น”


1. ประกันภัยทรัพย์สิน: คุ้มครองสิ่งที่เป็น “ของเรา”
ประกันภัยทรัพย์สิน (Property Insurance)
คือประกันที่คุ้มครองความเสียหายของทรัพย์สินที่คุณเป็นเจ้าของ เช่น

อาคาร สำนักงาน หรือโรงงาน
เฟอร์นิเจอร์ เครื่องจักร หรือสินค้าคงคลัง
เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ภายในร้าน
โดยทั่วไปจะคุ้มครองกรณีเกิดเหตุ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม พายุ การโจรกรรม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ

โรงงานถูกฟ้าผ่าทำให้เครื่องจักรไหม้ → ประกันทรัพย์สินชดเชยค่าเครื่องจักร
น้ำท่วมคลังสินค้าทำให้สินค้าชำรุด → ประกันทรัพย์สินชดเชยค่าสินค้าที่เสียหาย

2. ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก: คุ้มครอง “ความเสียหายที่เราทำให้ผู้อื่น”
ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก (Public Liability Insurance)
ให้ความคุ้มครองกรณีที่ธุรกิจของคุณ “ก่อให้เกิดความเสียหายต่อคนอื่น” ทั้งชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน เช่น

ลูกค้าลื่นล้มในร้าน
ป้ายโฆษณาหล่นใส่รถของคนเดินผ่าน
โรงงานปล่อยควันกระทบต่อบ้านข้างเคียง
บริษัทประกันจะช่วยชดใช้ค่าเสียหายแทนคุณ รวมถึงค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย ค่าทนาย และค่าเจรจาไกล่เกลี่ย

ตัวอย่าง:

ลูกค้าลื่นล้มในร้านอาหารและฟ้องเรียกค่าเสียหาย → ประกันความรับผิดชอบช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าทนาย
ป้ายหน้าร้านหล่นใส่รถลูกค้า → ประกันความรับผิดชอบชดใช้ค่าซ่อมรถ

3. สรุปความแตกต่าง
รายการ
ประกันภัยทรัพย์สิน
ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก
สิ่งที่คุ้มครอง
ทรัพย์สินที่เจ้าของธุรกิจเป็นผู้ครอบครอง
บุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากธุรกิจของคุณ
ตัวอย่างเหตุการณ์
ไฟไหม้ อาคารพัง น้ำท่วม สินค้าชำรุด
ลูกค้าลื่นล้ม ป้ายร้านหล่นใส่รถ หรือเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบ
จุดประสงค์หลัก
ปกป้องทรัพย์สินของคุณ
ปกป้องคุณจากการถูกฟ้องร้องหรือเรียกค่าเสียหาย
กลุ่มผู้ทำประกันหลัก
โรงงาน ร้านค้า อาคารสำนักงาน
ธุรกิจที่มีลูกค้าหรือคนภายนอกเข้าออกบ่อย

4. ควรมีทั้งสองแบบควบคู่กัน
ในทางปฏิบัติ ธุรกิจจำนวนมากเลือกทำประกันทั้งสองประเภทควบคู่กัน เพื่อให้คุ้มครองรอบด้าน

ประกันทรัพย์สิน ปกป้องสิ่งที่เป็น “ของเรา”
ประกันความรับผิดชอบ ปกป้องเราจาก “ผลกระทบต่อคนอื่น”
ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟควรมีทั้งสองแบบ

ถ้าเกิดไฟไหม้จากเครื่องชงกาแฟ → เคลมได้จากประกันทรัพย์สิน
ถ้าลูกค้าลื่นล้มในร้าน → เคลมได้จากประกันความรับผิดชอบ

สรุปสุดท้าย
ประกันภัยทรัพย์สิน ปกป้องสิ่งที่คุณมี
แต่ ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ปกป้องสิ่งที่คุณอาจ “ต้องรับผิดชอบ”

ทั้งสองแบบไม่ได้ทดแทนกัน แต่ “เสริมกัน” เพื่อให้ธุรกิจของคุณมั่นคงและปลอดภัยในทุกสถานการณ์


 สนใจเช็กเบี้ย ประกันภัยทรัพย์สินและประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ติดต่อได้ที่

คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor

คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor

Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย