เคล็ดลับเลือกประกันอัคคีภัยให้คุ้มค่า

เคล็ดลับเลือกประกันอัคคีภัยให้คุ้มค่า: ดูอะไรบ้างก่อนตัดสินใจซื้อ

หลายคนรู้ว่าประกันอัคคีภัยช่วยคุ้มครองบ้านหรือธุรกิจจากเหตุ “ไฟไหม้” แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกแบบไหนถึงจะคุ้มค่าและครอบคลุมจริง เพราะกรมธรรม์แต่ละแบบให้ความคุ้มครองต่างกัน ทั้งวงเงิน ทุนประกัน และเงื่อนไขพิเศษ

บทความนี้จะพาคุณมาดู 5 เคล็ดลับสำคัญ ที่จะช่วยให้คุณเลือก ประกันอัคคีภัย (Fire Insurance) ได้ตรงกับความต้องการ และคุ้มค่ากับทุกบาทที่จ่าย


1. ตรวจสอบทุนประกัน (Sum Insured) ให้เหมาะกับมูลค่าทรัพย์สิน
ทุนประกันคือจำนวนเงินสูงสุดที่บริษัทประกันจะจ่ายเมื่อเกิดเหตุ
อย่าประเมินต่ำเกินไป เพราะอาจได้รับเงินชดเชยน้อยกว่าความเสียหายจริง

ตัวอย่าง:

บ้านมูลค่า 2 ล้านบาท แต่ทำประกันไว้แค่ 1 ล้านบาท → เคลมได้เพียงครึ่งเดียว
ทางที่ดีควรให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยประเมินมูลค่าทรัพย์สินก่อนทำประกัน
 เคล็ดลับ: ประกันอัคคีภัยที่ดีควรคุ้มครอง “ทั้งอาคารและทรัพย์สินภายใน” เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องจักร

2. ตรวจสอบขอบเขตความคุ้มครอง
แม้ชื่อจะเป็น “ประกันอัคคีภัย” แต่หลายแผนคุ้มครองมากกว่าแค่ไฟไหม้ เช่น

ฟ้าผ่า
การระเบิดจากแก๊สหุงต้ม
ควันไฟ
น้ำจากการดับเพลิง
ภัยธรรมชาติ (ในบางแผน)
อ่านรายละเอียดกรมธรรม์ให้ชัดเจน เพื่อเลือกแบบที่ตรงกับความเสี่ยงในพื้นที่ของคุณ เช่น หากบ้านอยู่ใกล้โรงงานหรือในพื้นที่น้ำท่วม ควรเพิ่มความคุ้มครองเฉพาะทางไว้ด้วย


3. พิจารณาความคุ้มครองเพิ่มเติม (Optional Cover)
สำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองครบวงจร สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติม เช่น

ความเสียหายจากน้ำท่วม / พายุ
การโจรกรรมหลังเกิดไฟไหม้
การหยุดชะงักของธุรกิจ (Business Interruption)
ความเสียหายจากการรื้อถอนและซ่อมแซม
 เหมาะสำหรับธุรกิจหรือบ้านที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูง และต้องการความคุ้มครองรอบด้าน

4. เลือกบริษัทประกันที่มีชื่อเสียงและบริการหลังเคลมดี
การเคลมประกันหลังเกิดเหตุเป็นสิ่งสำคัญ
ควรเลือกบริษัทที่มีประวัติการจ่ายสินไหมรวดเร็ว บริการตรวจสอบความเสียหายอย่างมืออาชีพ และให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา

แนะนำ: ทำผ่าน “โบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้” เช่น ศรีกรุงโบรคเกอร์ ซึ่งมีทีมผู้เชี่ยวชาญช่วยเปรียบเทียบหลายบริษัทและดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ


5. ดูเบี้ยประกันเทียบกับความคุ้มครอง
ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยเริ่มต้นเพียงหลักร้อยถึงหลักพันต่อปี
อย่าตัดสินใจจากราคาถูกเพียงอย่างเดียว แต่ให้ดูว่า

วงเงินคุ้มครองครอบคลุมไหม
มีบริการหลังการขายหรือไม่
เงื่อนไขการเคลมง่ายหรือยุ่งยาก
บางแผนจ่ายเบี้ยเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่ให้ความคุ้มครองมากขึ้นหลายเท่า


สรุป
ประกันอัคคีภัย (Fire Insurance) เป็นการลงทุนเพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในพริบตา
เลือกแผนที่เหมาะกับมูลค่าทรัพย์สิน ความเสี่ยงในพื้นที่ และบริการของบริษัทที่คุณไว้ใจ
เพราะในวันที่เกิดเหตุจริง — ความคุ้มครองที่ครบถ้วนคือสิ่งเดียวที่ช่วยให้คุณ “กลับมายืนได้เร็วที่สุด”


 สนใจเช็กเบี้ย ประกันอัคคีภัยบ้านและธุรกิจ (Fire Insurance) ติดต่อได้ที่

คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor

คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor

Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย