เหตุผลที่ควรมีประกันงานก่อสร้าง

ลดความเสี่ยง สร้างความมั่นใจ ปกป้องอนาคตของโครงการ

ในทุกโครงการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือโครงการขนาดใหญ่ระดับภาครัฐ ล้วนมีสิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ “ความเสี่ยง” ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การผิดพลาดในการทำงาน สภาพอากาศ หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ เช่น แผ่นดินไหว หรือไฟไหม้

เพราะเหตุนี้ “ประกันงานก่อสร้าง” จึงกลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปกป้องทั้งผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ และบุคคลภายนอกจากผลกระทบทางการเงินที่อาจรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง

ประกันงานก่อสร้างคืออะไร?

คือประกันภัยประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองโครงการก่อสร้างตั้งแต่เริ่มต้นจนแล้วเสร็จ ครอบคลุมความเสียหายต่อทรัพย์สินจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด รวมถึงคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

เหตุผลสำคัญที่ควรทำประกันงานก่อสร้าง

1. คุ้มครองเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างก่อสร้าง

เช่น ไฟไหม้ พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือแม้แต่การระเบิดจากงานก่อสร้างที่ควบคุมไม่ได้

2. คุ้มครองอุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง

ในระหว่างการจัดเก็บหรือใช้งาน หากเกิดความเสียหายหรือการสูญหาย ประกันจะช่วยชดเชยค่าเสียหาย

3. คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

หากไซต์งานทำให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินหรือชีวิตของบุคคลอื่น เช่น ฝุ่น ฟุตบาทพัง เศษวัสดุตกหล่นใส่รถ ประกันจะช่วยรับผิดชอบแทนผู้รับเหมา

4. ลดความเสี่ยงทางการเงิน

ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจมีมูลค่าหลักแสนหรือหลักล้านบาท การมีประกันช่วยให้ผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการไม่ต้องแบกรับภาระเต็มจำนวน

5. เพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นใจ

การมีประกันเป็นสิ่งที่แสดงถึงความรับผิดชอบและความเป็นมืออาชีพ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่เจ้าของโครงการและผู้ว่าจ้าง

6. เป็นเงื่อนไขตามสัญญาหรือกฎหมาย

หลายโครงการโดยเฉพาะโครงการรัฐ หรือภาคเอกชนขนาดใหญ่ มักระบุให้ต้องมีประกันก่อนเริ่มงาน

ประเภทประกันงานก่อสร้างที่ควรพิจารณา

• ประกันความเสี่ยงทุกกรณีงานก่อสร้าง (Contractor’s All Risks – CAR) คุ้มครองความเสียหายต่อโครงการ, เครื่องจักร, อุปกรณ์ และบุคคลภายนอก
• ประกันความรับผิดของผู้รับเหมา (Public Liability) คุ้มครองเมื่อเกิดความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่น
• ประกันอุบัติเหตุกลุ่มสำหรับพนักงานก่อสร้าง คุ้มครองชีวิตและอุบัติเหตุของคนงานในไซต์งาน
  

การมี ประกันงานก่อสร้าง ไม่ใช่เพียงแค่ “เรื่องของความคุ้มครอง” แต่เป็นเรื่องของ การวางแผนและบริหารความเสี่ยง ที่ดี ช่วยให้โครงการเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ไม่สะดุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และยังสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพในสายงานก่อสร้างอย่างแท้จริง