มีประกันสังคม หรือ บัตรทอง 30 บาท จำเป็นต้องทำประกันสุขภาพอีกมั้ย?

19 จำนวนผู้เข้าชม  | 

มีประกันสังคม หรือ บัตรทอง 30 บาท จำเป็นต้องทำประกันสุขภาพอีกมั้ย?

ประกันสังคม กับ บัตรทอง (บัตร 30 บาท) ต่างกันอย่างไร?

ประกันสังคม คือ การสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มสมาชิกหรือคนทำงานที่มีรายได้ และช่วยจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อรับผิดชอบเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย มอบสวัสดิการการคลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์ชราภาพ และการว่างงาน เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาล และมีการทดแทนรายได้อย่างต่อเนื่อง
ประกันสุขภาพถ้วนหน้า คือ โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค เพื่อสร้างความเสมอภาคให้ประชาชนทุกคน สามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาด้านสุขภาพที่จำเป็น ซึ่งถือเป็นสิทธิตามกฎหมายขั้นพื้นฐานของประชาชน และเพื่อเป็นทางเลือกในการรับบริการรักษาพยาบาล และเพื่อสุขภาพที่ดีและมีประสิทธิภาพในอนาคต
ในความเป็นจริงแล้วทั้งสองอย่างล้วนเป็นสวัสดิการจากรัฐที่มอบเป็นหลักประกันแก่ประชาชนคนไทยทุกคน โดยเฉพาะบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่เราคุ้นเคยในชื่อ บัตรทอง หรือ บัตร 30 บาทรักษาทุกโรค ที่จะมอบสิทธิให้เฉพาะบุคคลที่มีสัญชาติไทย และมีรายได้น้อยไปจนถึงยากจน ผู้ขาดโอกาสทุพพลภาพ พิการ ผู้สูงอายุ ที่ไม่มีสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิข้าราชการ รวมไปถึงผู้ที่ไม่มีสวัสดิการด้านการรักษาใดเลยจากรัฐ ก็สามารถขอรับสิทธิความคุ้มครองดังกล่าวได้ และใช้เงินเพียง 30 บาทในการเข้ารับการรักษาจากสถานพยาบาลตามสิทธิของผู้ถือบัตร ในขณะที่ประกันสังคมจะเป็นสวัสดิการบังคับสำหรับลูกจ้างหรือคนทำงานที่มีการหักออกจากรายได้ในแต่ละเดือน และได้การสบทบจากนายจ้างและภาครัฐ ขึ้นอยู่ตามมาตรา 33, มาตรา 39 และ มาตรา 40 เพื่อให้ได้รับสวัสดิการการรักษาพยาบาล และออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณอายุ หรือบำนาญ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายอย่างเช่น เบิกค่าทำฟัน เป็นต้นTips: ย้ายประกันสังคม หรือเปลี่ยนโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา

สามารถขอเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม หรือ ย้ายประกันสังคม ได้ปีละ 1 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงต้นปี (วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี) ผ่านทางสำนักงานประกันสังคม
มีประกันสังคม มีประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ยังจำเป็นต้องทำประกันสุขภาพอีกได้มั้ย?

เป็นคำถามที่หลาย ๆ คนอาจเคยสงสัยแม้แต่ตัวผู้เขียนเอง เพราะก่อนหน้าเราเคยทำบัตรทอง 30 บาทเอาไว้ และพอทำงานเราก็โดนบังคับให้ทำประกันสังคม เราก็เลยเข้าใจว่าเรามีประกันสุขภาพทั้งสองตัว ก็น่าจะเพียงพออยู่แล้วไม่จำเป็นต้องทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมอีก แต่ในความเป็นจริงเมื่อเรามีประกันสังคมอยู่แล้ว และเราเคยมีประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทองที่ได้รับมาก่อนหน้า สิทธิบัตรทองของเราก็จะถูกตัดออกโดยอัตโนมัติทันที เหลือเพียงแค่ประกันสังคมอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นเราควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิ และความคุ้มครองต่าง ๆ ของประกันสุขภาพที่มีอยู่ให้ดีก่อน และค่อยพิจารณาว่าเพียงพอต่อความต้องการของเราในอนาคตหรือไม่ เพื่อจะได้วางแผนซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมต่อไป

ข้อดี - ข้อเสีย ของประกันสุขภาพแต่ละแบบ

ประกันสังคม

ข้อดี - ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาหากเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิหรือเครือข่ายของสถานพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้ ได้รับสิทธิเพิ่มเติมจากบัตรทองคือ คุ้มครองกรณีเสียชีวิต เงินชราภาพ เงินออมหลังเกษียณ และเงินชดเชยรายได้
ข้อเสีย - จำเป็นต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน ตามเงื่อนไขตามระยะเวลาในแต่ละกรณี ถึงจะสามารถใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ มีผู้เข้าคิวใช้บริการจำนวนมากทำให้บางทีอาจใช้ระยะเวลานานกว่าจะได้รับการรักษา และหากไม่ใช่โรงพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้จะมีเงื่อนไขชัดเจน และอาจต้องสำรองจ่ายไปก่อน
ประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง หรือ บัตร 30 บาท)

ข้อดี - ลงทะเบียนเรียบร้อยใช้สิทธิได้ทันที ไม่ต้องมีกำหนดระยะเวลาหรือวันหมดอายุ ไม่จำเป็นต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุน มีการรักษาที่ครอบคลุม หากเข้ารักษาในโรงพยาบาลรัฐที่ลงทะเบียนไว้จะเสียค่ารักษา 30 บาทหรือไม่เสียเลยก็ได้
ข้อเสีย - รอคิวนาน การบริการไม่ค่อยดี เพราะมีบุคลากรจำกัด ทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง ต้องรักษาสถานพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้กับ สปสช. ยกเว้นกรณีฉุกเฉินที่สามารถใช้บริการได้ แต่ต้องเป็นรพ.พยาบาลใกล้ที่เกิดเหตุเท่านั้น
ประกันสุขภาพที่ทำกับบริษัทประกัน

ข้อดี - สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกที่ตามวงเงินความคุ้มครอง และไม่ต้องสำรองจ่ายในกรณีเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลคู่สัญญา สามารถเลือกความคุ้มครองได้ตามใจ ไม่ว่าจะประกันโรคร้ายแรง ประกันเหมาจ่าย หรือชดเชยรายได้ก็มีให้เลือกตามความต้องการ
ข้อเสีย - จะต้องเสียค่าเบี้ยประกันปีต่อปี เบี้ยประกันภัยจะปรับตามแผนความคุ้มครองและตัวผู้เอาประกัน หากไม่ได้เข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลคู่สัญญาหรือโรงพยาบาลในเครืออาจต้องสำรองจ่ายไปก่อนแล้วเบิกกับบริษัทประกันในภายหลัง
ดังนั้นจะเห็นว่าถึงแม้เราจะมีประกันสังคม หรือประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท ก็จะได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลต่างๆ คล้ายคลึงกัน แต่ด้วยสิทธิการรักษาของประกันสังคม และประกันสุขภาพนั้นมีเงื่อนไขจำกัด และประกันสุขภาพจากบริษัทประกันให้สิทธิความคุ้มครองที่มากกว่า แต่ต้องเสียเงินเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้น ไม่ต้องรอคิวนาน ทำให้สามารถรับการรักษาได้ทันที และหากมีการทำประกันที่มีชดเชยรายได้ ก็จะได้รับเงินชดเชยหากต้องขาดงาน หรือสูญเสียรายได้ ดังนั้นเราต้องถามตัวเองก่อนว่าต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมเหล่านี้หรือไม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: Line: @srikrungmentor (มี @)
ติดต่อ: 080-2956052 (พี่บอย) 080-2951830 (พี่ปูเป้)
ช่องทางการติดต่อ https://instabio.cc/4122708Af3kW

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้