12 จำนวนผู้เข้าชม |
เคล็ดลับเลือกประกันความรับผิดชอบให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้น เจ้าของกิจการไม่เพียงต้องใส่ใจเรื่องยอดขายและบริการเท่านั้น แต่ยังต้องบริหาร “ความเสี่ยง” ที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุหรือความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อบุคคลภายนอกด้วย
เพราะเหตุการณ์เพียงครั้งเดียว เช่น ลูกค้าลื่นล้มในร้าน หรือป้ายโฆษณาหล่นใส่รถคนเดินผ่าน อาจทำให้ธุรกิจต้องจ่ายค่าเสียหายหลักแสนบาทได้
หนึ่งในเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่เจ้าของธุรกิจควรมีคือ “ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก (Public Liability Insurance)”
แต่จะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ? มาดูเคล็ดลับกันครับ
1. วิเคราะห์ลักษณะธุรกิจและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
เริ่มจากการประเมินก่อนว่า ธุรกิจของคุณมีโอกาสเกิดเหตุอะไรได้บ้าง เช่น
ร้านอาหาร / คาเฟ่: เสี่ยงลูกค้าลื่นล้ม, น้ำร้อนหกใส่, ของตกใส่ลูกค้า
โรงงาน / คลังสินค้า: เสี่ยงต่อควัน เสียงดัง หรือไฟลุกลามกระทบพื้นที่ข้างเคียง
สำนักงาน / ห้างร้าน: เสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจรหรือน้ำรั่วจากอาคาร
เมื่อเข้าใจความเสี่ยงหลักของธุรกิจ จะช่วยให้เลือกวงเงินคุ้มครองและเงื่อนไขประกันได้ตรงจุด
2. เลือกวงเงินคุ้มครองให้เพียงพอ
วงเงินคุ้มครองควรสอดคล้องกับขนาดธุรกิจและระดับความเสี่ยง เช่น
ธุรกิจขนาดเล็ก (เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร): เริ่มต้นที่วงเงิน 1–2 ล้านบาท
ธุรกิจขนาดกลาง–ใหญ่ (เช่น โรงงาน โรงแรม): ควรมีวงเงินตั้งแต่ 5–10 ล้านบาทขึ้นไป
อย่าลืมตรวจสอบว่า ประกันครอบคลุมทั้ง “ความเสียหายต่อทรัพย์สิน” และ “การบาดเจ็บต่อร่างกาย” ของบุคคลภายนอกด้วย
3. ตรวจสอบขอบเขตความคุ้มครองและข้อยกเว้น
แต่ละบริษัทประกันอาจมีเงื่อนไขต่างกัน เช่น
ครอบคลุมเฉพาะเหตุที่เกิดในพื้นที่ธุรกิจหรือไม่
คุ้มครองพนักงานของเราเองหรือไม่ (ส่วนใหญ่ไม่รวม ต้องซื้อแยก)
คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินของลูกค้าหรือคู่ค้าหรือไม่
ควรอ่านรายละเอียดให้ครบ และสอบถามตัวแทนก่อนตัดสินใจ เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดในภายหลัง
4. เลือกบริษัทประกันและโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้
บริษัทที่มีประสบการณ์ด้าน ประกันภัยธุรกิจ จะเข้าใจลักษณะความเสี่ยงเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมได้ดี
การเลือกทำผ่าน โบรกเกอร์มืออาชีพ อย่าง ศรีกรุงโบรคเกอร์ จะช่วยให้คุณได้เปรียบเทียบหลายบริษัท พร้อมคำแนะนำที่ตรงกับงบประมาณและความต้องการจริง
5. พิจารณาความคุ้มครองเพิ่มเติม (Optional Cover)
ธุรกิจบางประเภทอาจต้องเพิ่มความคุ้มครองพิเศษ เช่น
ประกันความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ (Product Liability): สำหรับผู้ผลิตสินค้า
ประกันความรับผิดของผู้จัดงานอีเวนต์ (Event Liability): สำหรับผู้จัดกิจกรรมหรือโชว์
ประกันความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม: สำหรับโรงงานหรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี
การเพิ่มความคุ้มครองเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจปลอดภัยยิ่งขึ้นในทุกมิติ
สรุป
การเลือก ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ไม่ใช่แค่เรื่องของการ “ซื้อกรมธรรม์”
แต่คือการบริหารความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ เพื่อให้ธุรกิจมั่นคง ปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าในระยะยาว
สนใจเช็กเบี้ย ประกันความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก (Public Liability Insurance) ติดต่อได้ที่
คุณบอย
โทร: 080-295-6052 | Line: @srikrungmentor
คุณปูเป้
โทร: 080-295-1830 | Line: @srikrungmentor
Facebook Page: ศรีกรุงปทุมธานี
TikTok: ปูเป้ศรีกรุงประกันภัย